ไขก๊อกคณะอนุกรรมการด้านสอบสวนในกก.ปฏิรูปตำรวจ”พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์”โวย ถูกปิดกั้นแสดงความเห็น แฉมีพิมพ์เขียวปมให้อัยการกลั่นกรองสำนวนก่อนแจ้งข้อหาด้วย “สมชัย” เชื่อมีเลือกตั้งช่วง ส.ค.61 – ก.พ.62 พร้อมประกาศระเบียบกกต. แต่ต้องรอคสช.ปลดล็อกการเมืองก่อน ห่วงพรรคเก่าอาจมีปัญหาหากประกาศช้า “จาตุรนต์”จวก 3 ปีคสช.ปฏิรูปล้มเหลว ชี้รัฐบาลใหม่ขยับยาก เหตุถูกล็อกด้วยยุทธศาสตร์ชาติ-แผนปฏิรูป อดีตเลขาฯผู้ตรวจการแผ่นดิน ชี้ผู้ว่าฯสตง.มีอำนาจเท่ากรรมการองค์กรอิสระ สรรหาจึงต้องยึดรธน.-กม.ลูก ปชป.ยกคดี”เบญจา”เป็นอุทาหรณ์สำหรับนักการเมือง-ขรก.

กกต.แจงเลือกตั้งส.ค.61 – ก.พ.62

เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ให้การต้อนรับคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งราชอาณาจักรภูฏาน และคณะ ที่มาศึกษาดูงานสำนักงาน กกต. พร้อมเยี่ยมชมศูนย์ศึกษาประชาธิปไตย ที่จัดการสาธิตการเลือกตั้ง และร่วมแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งของไทยและของราชอาณาจักรภูฏาน

นายสมชัยกล่าวบรรยายตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ระหว่างการร่างพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับ หากทั้ง 4 ฉบับนี้ประกาศใช้ก็จะจัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน หรือการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นช่วงเดือนส.ค. 2561 ถึงเดือนก.พ. 2562 ซึ่งจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับกระบวนการพิจารณากฎหมายลูกที่เหลืออีก 2 ฉบับ ดังนั้น ที่นายกฯระบุว่าจะมีการประกาศการเลือกตั้งในเดือนพ.ย. 2561 ถือเป็นช่วงเวลากลางๆ อาจจะบวกลบได้ 2 เดือน

“สมชัย”จับตาใช้ระบบใหม่

นายสมชัยกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกของไทย หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงจากครั้งที่ผ่านมาพอสมควร อาทิ การเลือกตั้งส.ส.เขต และส.ส.บัญชี รายชื่อจะใช้บัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียว ต่างจากในอดีตที่เราใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ, คะแนนทุกคะแนนถูกเอามานับ หมายถึงทุกคะแนนมีความหมาย สะท้อนถึงความต้องการประชาชน, ผู้สมัครส.ส.ของพรรค จะต้องผ่านการเลือกตั้งขั้นต้น หรือไพรมารี่โหวต ก็คือการเสนอรายชื่อจากระดับจังหวัดขึ้นมา จากเดิมถูกกำหนดจากกรรมการบริหาร, การหาเสียงจะต้องประหยัดมากขึ้น, มีความบริสุทธิ์ยุติธรรมมากขึ้น เพราะกกต.จะสามารถประกาศผลได้ภายใน 60 วันเนื่องจากดำเนินคดีทุจริตได้ก่อนการประกาศผล, มีกลไกผู้ตรวจการการเลือกตั้ง เป็นกฎหมายใหม่ แทนกกต.จังหวัด ซึ่งแตกต่างจากกกต.ประเทศอื่น ต้องดูว่าเมื่อเปลี่ยนระบบแล้วจะดีขึ้นกว่าเดิมหรือไม่

ห่วงพรรคเก่า-จี้คสช.ปลดล็อก

จากนั้นนายสมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการร่างระเบียบกกต.ให้สอดคล้องกับพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรค การเมืองฉบับใหม่ว่า คาดว่าจะเสร็จในจังหวะเดียวกับที่คสช.จะปลดล็อกให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมทาง การเมืองได้ ปลดล็อกเมื่อใดก็ดำเนินการได้ทันที เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว เชื่อว่า การประกาศในราชกิจจานุเบกษาจะทำในห้วงเดียวกัน เพื่อให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้โดยไม่ติดขัด เพราะ ถึงกกต.ประกาศระเบียบไปในตอนนี้ พรรค ก็ไม่สามารถดำเนินกิจกรรมได้อยู่ดี ที่น่าเป็นห่วงคือยิ่งประกาศช้าเท่าใด พรรคก็ยิ่งมี เวลาน้อยลงเท่านั้น โดยเฉพาะพรรคเก่าจะ มีปัญหา มากกว่าพรรคที่จะจดทะเบียนใหม่

ชี้ผู้ว่าฯ สตง.มีอำนาจเท่ากก.อิสระ

นายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม อดีตเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงมาตรา 108 วรรคท้าย ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ห้ามผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินที่เคยดำรงตำแหน่งเข้าสมัครรับการสรรหาอีกว่า ตามหลักการแล้ว สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถือเป็นองค์กรอิสระ ที่แตกต่างจากองค์กรอื่น เนื่องจากอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าฯสตง. จะสูงกว่าตำแหน่งเลขาธิการของสำนักงานองค์กรอิสระที่ คอยทำหน้าที่ธุรการ แต่ผู้ว่าฯสตง. จะมีอำนาจในระดับเดียวกันกับคณะกรรมการองค์กรอิสระ ทั้งในแง่การตรวจสอบ วินิจฉัย และตัดสินใจ

นายเฉลิมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) จะมีอำนาจหน้าที่ในลักษณะบอร์ด คอยกำหนดนโยบายภาพรวมเท่านั้น อีกทั้งในรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 ยังกำหนดมาตรการคุ้มครองความเป็นอิสระของผู้ว่าฯสตง. ให้เข้มข้นขึ้นไปอีก ผู้ว่าฯสตง. สามารถร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้ หากคตง.เข้ามาแทรกแซงการทำหน้าที่

สรรหาใหม่ต้องยึดรธน.-กม.ลูก

นายเฉลิมศักดิ์กล่าวว่า ดังนั้น เมื่อผู้ว่าฯสตง.มีอำนาจมาก คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จึงกำหนดในรัฐธรรมนูญให้มีความชัดเจนถึงคุณสมบัติของผู้ว่าฯสตง. เพื่อให้เทียบเท่ากรรมการองค์กรอิสระอื่น โดยเฉพาะการห้ามดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการองค์กรอิสระมาก่อน ส่วนที่อ้างถึงคำสั่งคสช.ที่ 71/2557 ว่าทำให้อดีตฯ ผู้ว่าฯสตง. สามารถสมัครรับการสรรหาเป็นผู้ว่าฯสตง. ได้อีกนั้น ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ แต่เมื่อร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ฉบับใหม่ประกาศใช้ ก็ต้องพ้นจากตำแหน่งแล้วทำการสรรหาใหม่อยู่ดี เนื่องจากมีการกำหนดคุณสมบัติต้องห้ามดังกล่าวไว้

“ชัชวาลย์”ไขก๊อกอนุปฏิรูปสอบสวน

แหล่งข่าวคนใกล้ชิดพล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีมีการแชร์ข่าวผ่าน โซเชี่ยลมีเดียระบุ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ ลาออกจากคณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายและระบบการสอบสวนคดีอาญาว่า ยอมรับว่า พล.ต.อ.ชัชวาลย์ ลาออกคณะอนุกรรมการจริง แต่ยังคงดำรงตำแหน่งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ซึ่งเป็นคณะกรรมการชุดใหญ่ต่อไป

แหล่งข่าว กล่าวว่า สาเหตุที่ลาออกนื่องจากในการประชุมหลายครั้งที่ผ่านมา ในเรื่องการปฏิรูปการสอบสวน คล้ายกับมีพิมพ์เขียวเอาไว้แล้ว โดยเฉพาะประเด็น ที่เสนอให้อัยการเข้ามากลั่นกรองสำนวนก่อนแจ้งข้อหาผู้ต้องหานั้น ที่ผ่านมา พล.ต.อ. ชัชวาลย์ พยายามเสนอความเห็นที่แตกต่าง เนื่องจากไม่เห็นด้วย แต่มักถูกตัดบท ไม่เปิดโอกาสให้พูด เพื่อเสนอความเห็น จึงเป็น เหตุให้ลาออก เนื่องจากรู้สึกเหมือนไม่มีบทบาทในการแสดงความเห็น อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ. ชัชวาลย์ จะยังคงนั่งในคณะกรรมการชุดใหญ่และเสนอความเห็นเพื่อการปฏิรูปต่อไป

“อ๋อย”จวก 3 ปีคสช.ล้มเหลว

เมื่อเวลา 13.15 น. ที่งานสัปดาห์หนังสือ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการและแกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางมาเปิดตัวและแจก ลายเซ็นหนังสือ เรื่อง “เปิดมุมคิดพลิกวิกฤตการศึกษาไทย” แก่นักอ่านที่ให้ความสนใจหลายราย

นายจาตุรนต์กล่าวว่า เล่มนี้เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่สอง มีการเพิ่มบทความที่น่าสนใจ โดยเฉพาะบทสุดท้าย เป็นการประเมินผลงาน 3 ปีของรัฐบาลคสช.ต่อการบริหารจัดการด้านการศึกษา ต้องการเปิดประเด็นให้คนหันมาสนใจ เพราะการปฏิรูปตลอด 3 ปีที่ผ่านมา อาศัยคนกลุ่มเล็กๆกลุ่มเดียวไม่อาจตอบสนองต่อปัญหาที่ซับซ้อนได้ มีแต่ไปจับ เรื่องย่อยๆ ไม่ได้มองปัญหาเชิงระบบ ขาดการเชื่อมโยงการทำงาน ขาดวิสัยทัศน์ การ ออกคำสั่งหลายครั้งกลายเป็นการสร้างปัญหาทั้งที่ปัญหาการศึกษาไทยนั้นถือได้ว่าเข้าขั้นวิกฤต รัฐบาลคสช.แก้ปัญหาสำคัญ ไม่ตรงจุด เล่นแต่เรื่องเล็ก เช่น การลด เวลาเรียน สุดท้ายก็ไม่ได้ลดจริงเนื่องจากหลักสูตรไม่ได้ถูกปรับอย่างแท้จริง ระบบการสอบวัดประเมินผลเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาจึงไม่ลงตัวเหมือนเดิม

ยุทธศาสตร์ชาติล็อกรบ.ขยับยาก

นายจาตุรนต์กล่าวว่า ส่วนหนึ่งของปัญหาเกิดจากสังคมยังไม่มีการผลักดัน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โจทย์ของการศึกษาไทยควรเริ่มจากเราจะสร้างคนในศตวรรษที่ 21 นี้อย่างไร จากนั้นจึงเริ่มบริหารกิจการหลักสูตรและระบบวัดการประเมินผลให้สอดรับกัน การเมืองที่เกี่ยวข้องกับทุกเรื่องจะเป็นทางออก การเมืองจะทำให้เราเห็นนโยบายของรัฐบาลว่า กำลังทุ่มเงินไปในทิศทางไหน ในบทสุดท้ายจึงมีบทวิจารณ์ ทางการเมืองเพื่อประโยชน์ของการศึกษา

“ทางแก้ไขคือ ต้องเปิดให้ทุกฝ่ายมี ส่วนร่วมผลักดันอย่างแท้จริง มันไม่มี อัศวินม้าขาวในการแก้ปัญหาทางการศึกษา ประชาชนจะต้องช่วยกันกดดันให้พรรค และนักการเมือง ชูนโยบายการศึกษาในการหาเสียง หากมีการเลือกตั้งในเดือนพ.ย. 2561 จริง การเมืองจะดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันแน่ แต่รัฐบาลเลือกตั้งก็ไม่อาจแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง เพราะต้องถูกกำกับโดยยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนการปฏิรูป” นายจาตุรนต์ กล่าว

ปชป.ยกคดี”เบญจา”เตือนขรก.

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ มี คำพิพากษาจำคุกนางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรมช.คลัง เป็นเวลา 3 ปีไม่รอลงอาญา ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 83 กรณีร่วมกัน ออกคำวินิจฉัยให้นายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา ชินวัตร ลูกของนายทักษิณ ชินวัตร ไม่ต้องเสียภาษีจากการซื้อหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ในราคาพาร์ 1 บาท จากบริษัท แอมเพิล ริช อินเวสเมนต์ จำกัดว่า เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับนักการเมืองและข้าราชการ ซึ่งการที่นักการเมืองทำงานโดยไม่ยึดถือหลักกฎหมาย ไม่ยึดถือหลัก นิติรัฐ นิติธรรม ทำตามความต้องการของนายทุน นายเงิน สุดท้ายผลจะกลายเป็นแบบนางเบญจา

นายวิรัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนข้าราชการ หากขายอุดมการณ์ ไม่ได้ทำตามคำปฏิญาณว่าจะซื่อสัตย์ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไปรับใช้นายทุนสามานย์ ผลสุดท้ายนายทุนก็หนี ข้าราชการก็ติดคุก ถือเป็นอุทาหรณ์ จากนี้ขอให้ข้าราชการยึดถือในหลักกฎเกณฑ์ ยึดผลประโยชน์ประเทศชาติ ไม่ใช่ยึดถือในเงินที่นายทุนมอบให้เป็นหลัก เพราะสุดท้ายแล้วได้เงินมาเท่าไรก็ต้องติดคุก ไม่คุ้ม โดยเฉพาะคนรุ่นนี้ถ้าติดคุกก็อาจตายในคุก ส่วนเรื่องการตอบแทนบุญคุณโดยเอาผลประโยชน์ตอบแทนนั้นยิ่งทำไม่ได้ จะผิดกฎหมายว่าด้วยการขัดกันแห่งผลประโยชน์ของรัฐด้วย

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน