ฝ่ายค้านวางตัว 45 ขุนพล ถล่มศึกซักฟอก “สุทิน” ยัน รัฐบาลขีดเส้นจบไม่ได้ ผิดรัฐธรรมนูญ – ขัดขวางการตรวจสอบ ขู่หากทำเจอยื่น ศาล รธน. แน่

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. เวลา 10.20 น. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน)ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมวิปฝ่ายค้านในการหารือเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลว่าในเรื่องเนื้อหาส่วนใหญ่ลงตัวแล้ว ประเด็นมีความสมบูรณ์ แต่ในส่วนข้อมูลยังต้องมีการขัดเกลา

รวมถึงโครงสร้างการนำเสนอของแต่ละคนอยู่ในขั้นตอนการทำรายละเอียด และในส่วนเรื่องบุคคลขณะนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนบุคคลที่เหมาะสมในการอภิปรายเล็กน้อย และคาดว่าสัปดาห์นี้จะลงตัว โดยสัปดาห์หน้าแต่ละคนจะได้เตรียมตัวขั้นสุดท้าย คิดว่าทุกคนมีความพร้อม และเบื้องต้นในส่วนของพรรคเพื่อไทยมีการวางตัวผู้อภิปรายประมาณ 15 คน และรวมกับผู้อภิปรายของพรรคฝ่ายค้านทั้งหมดประมาณ 45 คน ซึ่งมีทั้งคนเก่า คนใหม่ และมีดาวเด่นแน่นอน

นายสุทินยังยอมรับว่า มีความกังวลเรื่องเวลาการอภิปราย เพราะธรรมชาติทางรัฐบาลไม่อยากให้พูดอยู่แล้ว หรือให้พูดน้อยที่สุด แต่ธรรมชาติของฝ่ายค้านต้องการพูดให้มากที่สุดเพื่อให้มีความครอบคลุม ซึ่งต้องนี้ต้องบริหารให้เกิดดุลยภาพ เพราะทุกครั้งก็มีปัญหา และในครั้งนี้ก็เหมือนเวลายังไม่ตรงกันระหว่างอุปสงค์กับอุปทาน แต่เชื่อว่าหากมีการพูดเหตุผลคุยกันก็คงจะสามารถจบลงได้ อย่างไรก็ตามเราสบายใจอยู่อย่างหนึ่งคือไม่ใช่วันสุดท้ายของการปิดสมัยประชุมสภา หรือตรงกับวันสำคัญ

ส่วนกรอบเวลาที่รัฐบาลกำหนดให้อภิปราย4 วันนั้น นายสุทินกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่สามารถ ยื่นคำขาดหรือกำหนดได้ 100 เปอร์เซนต์ เพราะข้อบังคับการประชุมสภาและรัฐธรรมนูญก็เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้อภิปรายจนจบ ถ้าไม่จบก็ปิดไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการละเมิดสิทธิ์ หรือเรียกว่าขัดขวางการตรวจสอบ ซึ่งการจะมากำหนดเวลาไม่สามารถทำได้เพราะตามรัฐธรรมนูญระบุว่าให้อภิปรายจนเสร็จสิ้น ดูอย่างคราวที่แล้วก็มีปัญหาที่อภิปรายยังไม่จบก็ให้ยุติ ถ้าเราไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็สามารถทำได้ แต่เราไม่ทำเพราะไม่อยากมีปัญหา แต่ครั้งนี้หากปิดกั้นอีกก็อาจจะต้องทำเพื่อให้เกิดเป็นบรรทัดฐาน

เมื่อถามว่ามีการกำชับผู้อภิปรายเรื่องกรอบเวลาหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องบริหารให้ได้ เพราะที่ผ่านมาปัญหาเกิดจากจุดนี้ที่เวลาของแต่ละคนคลาดเคลื่อน ดังนั้นเราจึงมีการวางมาตรการให้รัดกุมพอสมควร เช่นบางครั้งการประท้วงไม่ได้มีการวางแผนล่วงหน้า ทำให้เวลาเดินในส่วนนี้ ดังนั้นหากจะคลาดเคลื่อนเล็กน้อยแต่อยู่บนความเข้าใจกันก็ไม่น่าจะมีปัญหา

ส่วนที่รัฐบาลมีความกังวลเรื่องอภิปรายเกี่ยวกับสถาบัน นายสุทินกล่าวว่าเขามีสิทธิ์ที่จะกังวล และทุกคนก็กังวลเหมือนกัน ซึ่งได้มีการเตือนกันว่าขอให้อยู่ในกรอบ ตนเชื่อว่าทุกคนจะระมัดระวัง ทั้งนี้ตนเคยพูดบ่อยในเรื่องสถาบัน แต่หากพูดด้วยวุฒิภาวะและระมัดระวังก็ไม่มีปัญหา

ส่วนที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ขู่ว่าหากมีการอภิปรายถึงสถาบันจะลูกขึ้นประท้วงทันที นายสุทินกล่าวว่าเรื่องนี้ผู้อภิปรายและผู้ประท้วงก็ต้องพูดในข้อบังคับเช่นกัน และมีประธานในที่ประชุมเป็นผู้ตัดสิน คงไม่ปล่อยให้คนที่ตั้งใจป่วนสามารถป่วนได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน