คลองหลวงดุ รถน้ำสลายม็อบ-แท่งปูน โผล่รับ 21 ม็อบราษฎร ลือวันนี้ฝากขังคุก! ตำรวจเข้ม ตรวจบัตรประชาชน คนแถวนั้น ยันทนาย ก็ต้องแสดงตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 5 ก.พ.64 แกนนำราษฎร นักกิจกรรม นักศึกษาและเยาวชน จำนวน 21 คน ที่ได้รับหมายเรียกจากการจัดกิจกรรมปล่อยแพะ หน้า สภ.คลองหลวง จะต้องเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาใน 2 คดี เวลา 10.00 น. ที่ สภ.คลองหลวง ได้แก่
กรณีเรียกร้องให้ปล่อยตัว นายสิริชัย นาถึง หรือ “นิว” หลังถูกจับกุมในยามวิกาลเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ข้อหาความผิดตามมาตรา 112 และกรณีไปให้กำลังใจ นายชยพล ดโนทัย หรือ “เดฟ” เข้ามอบตัวตามหมายจับกรณีเดียวกัน เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ทั้งนี้ แกนนำผู้ชุมนุมเปิดเผยถึงข่าวลือจากทางฝั่งเจ้าหน้าที่ว่าอาจจะมีการฝากขังกลุ่มแกนนำ และผู้ชุมนุม
ล่าสุด มีการรายงานบรรยากาศบริเวณหน้า สภ.คลองหลวง โดย TLHR/ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตั้งแต่ช่วงเวลา 08.30 น. ระบุ บริเวณถนนตรงข้าม สภ.คลองหลวง ช่วงเช้าพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดการจราจร ตั้งแนวแบริเออร์ พร้อมนำรถฉีดน้ำแรงดันสูงหรือ “จีโน่” มาจอด พร้อมจัดกำลังชุดควบคุมฝูงชนเอาไว้
เวลา 09.15 น. หน้าสภ.คลองหลวง มีการปิดถนน ไม่ให้รถยนต์เข้า-ออก ชุดควบคุมฝูงชนพร้อมโล่ยืนตรึงกำลังทางเข้าออก สภ. มีการกั้นแบริเออร์ให้เหลือช่องทางเดินเข้าออกแคบลง พร้อมมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตั้งโต๊ะจุดคัดกรองโควิดและวัดอุณหภูมิร่างกาย
ต่อมา 09.50 น. ถนนเข้าไปยังหน้า สภ.คลองหลวง จนท.ตั้งแบริเออร์ปูน ไม่ให้คนเข้าไปภายใน และตั้งรั้วปิดไม่ให้ใช้สะพานลอย แม้จะมีคนพักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวขอกลับเข้าไป จนท.ก็ระบุให้ต้องมีหลักฐานมาแสดง เจ้าหน้าที่ คฝ. (ควบคุมฝูงชน) ยังคอยถ่ายภาพสื่อกับคนที่อยู่บริเวณดังกล่าวด้วย
เวลา 10.15 น. บริเวณประตูทางเข้า สภ.คลองหลวง ผู้ที่จะผ่านเข้าไปในตึกของ สภ.คลองหลวง ทั้งทนายความและผู้ต้องหา ถูกจตำรวจสอบถามความเกี่ยวข้องกับคดี เมื่อผ่านเข้าไปแล้วจะถูกถ่ายภาพพร้อมกับมีการตรวจบัตรประจำตัวประชาชน จดรายละเอียดลงสมุดบันทึกไว้ อีกทั้งมีโดรนบินอยู่ในบริเวณดังกล่าวตลอดเวลาอีกด้วย
และเมื่อเวลา 10.37 น. หน้าประตูทางเข้า สภ.คลองหลวง ทนายความและผู้ถูกกล่าวหาต้องใช้พื้นที่บริเวณใต้สะพาน เพื่อให้คำปรึกษาทางกฎหมายก่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ทั้งนี้ ระหว่างการปรึกษาทางกฎหมาย มีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนคอยยืนล้อมทนายความและผู้ถูกกล่าวหาอยู่โดยรอบตลอดการพูดคุย
- ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
