ช้าไม่ได้! ‘ทักษิณ’ ร่วมปันไอเดียแก้ความจน จากแนวคิดสู่การปรับสูตรทั้งระบบ ลั่นถ้าคิดช้ากว่านี้ คนชั้นกลางก็จะเป็นคนจน ต้องคิดล่วงหน้า ตามให้ทันโลก

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 ก.พ.64 ที่ลิโด้ คอนเนกท์ กลุ่ม CARE จัดงาน Care Talk หัวข้อ “คนไทยไร้จน : ฝันเฟื่องหรือเรื่องจริง” โดยมีวิทยากร ประกอบด้วย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายดวงฤทธิ์ บุนนาค นายศุภวุฒิ สายเชื้อ สมาชิกและผู้ประสานงานกลุ่ม CARE นายปราชญ์ ปัญจคุณาธร นักศึกษาปริญญาเอก สาขาปรัชญา ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด นายรัศมิ์ ชาลีจันทร์ อดีตข้าราชการระดับสูง กระทรวงการต่างประเทศ เจ้าของเพจเฟซบุ๊กทูตนอกแถว และ นางสฤณี อาชวานันทกุล นักเขียน นักแปล นักวิจัย และนักวิชาการอิสระด้านการเงิน

นอกจากนี้ยังมีคนในแวดวงการเมือง อาทิ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพท. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคพท. นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ ผู้อำนวยการทีมคิดเพื่อไทย นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช สมาชิกและผู้ประสานงานกลุ่ม CARE นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตแคนดิเดตนายกฯ พรรคพท.ร่วมกิจกรรม

ช่วงหนึ่ง นายรัศมิ์ กล่าวว่า การมีรัฐบาลที่ดีถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ประเทศเจริญ คนอยู่ดีกินดี คือต้องมีรัฐบาลที่ดีต้องมีผู้นำที่มีความรู้ความสามารถ ต้องมีอุดมการณ์ที่จะทำเพื่อประชาชน มีวิสัยทัศน์ มีประสิทธิภาพ และต้องมีความตระหนักในพันธะหน้าที่ รู้จักรับผิดชอบต่อคนส่วนใหญ่

สิ่งเหล่านี้จะสามารถผลักดันให้ประเทศก้าวหน้า ประชาชนอยู่ดีกินดีได้ ในขณะที่ปะเทศไทย เรามีกองทุนสำรองระหว่างประเทศสูงพอสมควร ค่าครองชีพเราก็โอเค แต่เรามีความเหลื่อมล้ำในสังคมมาก

อีกปัญหาหนึ่งที่ตนเห็นในฐานะข้าราชการคือเรามีปัญหาในการบริหารงบประมาณแผ่นดินที่จะนำไปบริหารประเทศ เราตอบไม่ได้ว่าเราเอางบประมาณนั้นๆ ไปพัฒนาประเทศอย่างไร ทั้งนี้ ทำอย่างไรประเทศไทยเราจะมีรัฐบาลที่มีทั้ง 3 คุณสมบัติ คือ เราต้องมีประชาธิปไตย คนไทยไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากการทำให้ประเทศของเราเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ซึ่งตนไม่ถือว่าการมี ส.ว. 250 มาจากการแต่งตั้งทั้งหมดเป็นประชาธิปไตย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงท้ายของงานมีการเปิดคลิปของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยนายทักษิณ กล่าวผ่านวิดีโอคลิปความยาวประมาณ 20 นาที ว่า

วันที่ผมอัดเทปคือวันที่ 9 ก.พ. ซึ่งเป็นวันที่ผมได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกฯ 20 ปีที่แล้ว วันเวลาผ่านไปเร็วมากแต่ว่าความทรงจำที่ได้ทำงานไปร่วมกับพี่น้องประชาชน ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ก็ยังอยู่ จะถามเรื่องอะไรก็คงยังจำได้เป็นส่วนใหญ่ และเทปวันนี้จะไปออกวันที่ 14 ก.พ. ก็เป็นวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก ผมขออนุญาตส่งความรักและความปรารถนาดี ความห่วงใยมายังพี่น้องคนไทยทุกคน ณ โอกาสนี้ด้วย

วันนี้หัวข้อที่เขาจะให้ผมพูด คือเรื่อง การแก้ปัญหาความยากจน ผมคงต้องเริ่มต้นด้วยคำพูดของ บิล เกตส์ ที่บอกว่าถ้าเราเกิดมาจน มันไม่ใช่ความผิดของเรา แต่ถ้าเรายังตายจน มันเป็นความผิดของเรา ที่ไม่พยายามจะดิ้นรนแก้ปัญหา

แต่ว่าถ้าเรายังไม่อยากตายจน แต่ยังต้องตายจนเนี่ย คือหมายความว่าเรามีความพยายามแล้วอะไรแล้ว เราไม่อยากตายจน แต่เรายังต้องตายจน มันเป็นความผิดของรัฐบาล หมายความว่ารัฐบาลมีหน้าที่สร้างโอกาสให้กับประชาชนของตัวเองทุกคน เพื่อจะได้มีโอกาสสร้างฐานะ ปรับตัวเองจากคนยากจนเป็นคนไม่ยากจน สิ่งเหล่านี้พูดง่ายแต่ทำยาก

สมัยที่ผมประกาศสงครามกับความยากจน เพราะความยากจนมีผลทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย เพราะฉะนั้นวันนั้นผมจึงประกาศสงครามกับความยากจนเพราะถือว่าเป็นเรื่องจำ เป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นเมื่อจะประกาศสงครามกับความยากจน ผมก็ต้องทุ่มทรัพยากรในการแก้ปัญหา เพราะมันเป็นสงคราม มันเป็นสิ่งที่ต้องขจัดออกไป

วันนี้ผมก็อยากจะถามรัฐบาลว่ารัฐบาลมองความยากจนเป็นอย่างไร จะประกาศสงครามไหม เราจะได้ซื้ออาวุธให้กับการแก้ปัญหาความยากจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี ตั้ง iCloud ให้กับพวกการเกษตรเพื่อจะได้รู้ว่าที่ดินตรงนี้เป็นอย่างไร ฤดูฝนฟ้าเป็นอย่างไร ราคาสินค้าเกษตรเป็นอย่างไร เพื่อจะได้ให้เขามีความรู้เข้าหาแหล่งความรู้ จะตั้งแหล่งทุนให้เขาไหม จะทำเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานในการแก้ปัญหาความยากจนไหม

เช่น ทำไซโล ทำเรื่องของอุปกรณ์ในการแก้ปัญหา เช่น โดรน ในการพ่นยาฆ่าแมลง อันนี้เดี๋ยวเราค่อยพูดกัน อันนี้คือสิ่งที่ political support ต้องมี จะเอาจริงไหม สงครามยังไม่เกิดเลยยังซื้ออาวุธ

แต่วันนี้สงครามมันเกิดแล้วก็คือสงครามความยากจน มันต้องซื้ออาวุธเพื่อแก้ปัญหาความยากจน ไม่ใช่ซื้ออาวุธไปใช้สำหรับสงครามที่ยังไม่เกิด เพราะฉะนั้นวันนี้ Political Support จึงเป็นหัวใจสำคัญข้อหนึ่ง

นายทักษิณ ระบุต่อว่า ส่วน Leadership มีภาวะการนำในการจะแก้ไขปัญหาความยากจนจริงหรือเปล่า อันนี้ต้องถามพร้อมจะนำไหม ท่านมีความมุ่งมั่นไหม มีความต้องการจะขจัดมันจริงๆ ไหม ถ้ามีต้องลงมาเล่นเอง ต้องทุ่มทั้งตัว ลงไปเล่น เพราะฉะนั้น Leadership จึงมีความสำคัญ

และเรื่องของ Know-How เราจะใช้สูตรเดิมมาแก้ปัญหาโลกที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ได้ ต้องปรับสูตรหรือใช้บางส่วน ซึ่งอาจจะใช้ได้ไม่มากนัก เพราะของใหม่มันเปลี่ยนไปเร็วมาก วันนี้ก็เลยอยากจะเน้นพูดเรื่องการแก้ปัญหาความยากจนเป็นหลัก แต่มันทำไม่สำเร็จหรอกถ้าหากว่าไม่มีการสนับสนุนทางการเมืองอย่างจริงจัง ไม่มีตัวนายกฯ ที่เป็นผู้นำลงมาปฏิบัติเองเล่นเอง

ต้องถามว่าเอาจริงหรือเปล่า ถ้าเอาจริงไม่มีอะไรยากที่ทำไม่ได้ ผมเชื่อว่าท่านนายกฯ กับผมก็เป็นนักเรียนเตรียมทหารด้วยกัน เราเคยปฏิญาณตนตลอดว่าไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราตั้งใจและมุ่งมั่นจะทำ มันทำได้

ที่สำคัญก็คือว่า ท่านต้องรู้เท่าทันเศรษฐกิจทุนนิยม ชอบหรือไม่ชอบ เราอยู่ในเศรษฐกิจทุนนิยม เราจะต้องหาทางเข้าใจแล้วสู้กับมันให้ได้ อยู่กับมันให้ได้ แล้ววันนี้ที่ผมในอดีตหรือปัจจุบันก็ยังเหมือนเดิม หลังจากที่ผมพยายามแก้ แต่วันนี้ก็กลับไปที่เดิมก็คือว่า ชาวบ้านไม่มีเงินในการจะมาทำทุน ถ้าไม่มีเงินจะทำทุน มันก็ลำบากที่จะไปทำอะไร ไม่ว่าจะทำทุกอย่างมันต้องใช้ทุนหมด

นอกจากนี้เรื่องปัจจัย 4 เราต้องคิดว่ารัฐธรรมนูญในปี 40 โชคดีตรงรัฐธรรมนูญบอกว่าให้คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนไทย อันนี้เป็นตัวกระตุ้นทำให้ผมต้องดูเรื่องของความยากจนเป็นพิเศษ

คนจน คนรวย คนไทยด้วยกันครับ เราเห็นคนรวย เรารวยแล้วเราหันกลับไปดูคนจน สภาพความเป็นอยู่ของเขาเนี่ย มันต่ำกว่ามาตรฐานความเป็นมนุษย์ ฉะนั้นการแก้ปัญหาความยากจนจึงเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องไปดูเรื่องของปัจจัย 4

นายทักษิณ ระบุอีกว่า แต่วันนี้ความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกที่เขาเรียกว่า UBI – Universal basic incomeและ Negative Income Tax ที่บางคนบอกคนจนไม่เคยเสีย Tax แล้วเราจะไปให้เขาได้ยังไง คนจนเขาบริโภค การซื้อของ ซื้อแปรงสีฟัน ยาสีฟันโดน Vat 7% หมด แล้วบางอย่างเป็นของที่เอาเข้ามาจากจีน เขาก็เสียภาษีศุลกากรทางอ้อมไปนะครับ เพราะบริษัทต้องเสีย

แล้วเติมน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์เขา ก็มีภาษีสรรพสามิตอยู่ในนั้นนะ เพราะฉะนั้นเนี่ย ไม่มีคนไทยคนไหนไม่เสียภาษี แต่เสียรูปแบบไหน เขาไม่ได้เสียภาษีเงินได้ เพราะเงินได้เขาไม่ถึงขีด เพราะฉะนั้นทุกคนเสียภาษีหมด

แต่การทำ Negative Income Tax เนี่ย ก็คือ การคืนภาษีบางส่วน ซึ่งมันอาจจะมากกว่าที่เขาเสียก็ได้ แต่มันเป็นการทำให้มนุษย์มีความเท่าเทียมกัน มนุษย์มีศักดิ์ศรี แล้วการทำอย่างนั้นเนี่ยมันจะตัดวงจรอุบาทว์ ที่บอกว่าคุณเกิดมาจน ลูกคุณก็คือลูกคนจนแล้วก็ต้องจนต่อไป ถ้าเรามีระบบอย่างนี้ ทำให้การศึกษาเขาดีขึ้น ให้เด็กรุ่นใหม่ได้มีการศึกษา

นายทักษิณ ระบุว่า เราจะทำเหมือนเก่าไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะตอนนี้เรามี โรคระบาด เรามีการ Lockdown พฤติกรรมของมนุษย์ ของการบริโภคมันเปลี่ยนไปหมดทั้งโลก ตอนสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เราเคยมีการแจก Tablet PC เพราะเรารู้ว่า ข้อมูลของโลกสามารถเรียกหาได้ผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อให้คนที่อยู่ในมุมไหนของประเทศไทยก็แล้วแต่ ได้มีโอกาส ได้รู้เท่าเทียมกัน

ผมคิดว่าถึงเวลาที่ประเทศไทยจะต้องคำนึงว่าโลกยุคใหม่ ที่กำลังมีการ Interrupted ด้วยเทคโนโลยีทั้งหลาย เราจะเอาสิ่งเหล่านี้มาอุ้มชูคนจนอย่างไร สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่มาซ้ำเติม เพราะเราตกอยู่ภายใต้อิทธิพล ของบริษัท Platform ระดับโลกทั้งหลาย สิ่งเหล่านี้เอาเปรียบคนไทย คนไทยเสียเปรียบ แต่มันเป็นสิ่งที่ต้อง เสพติดไปแล้ว เราจะทำยังไงต้องแก้ไข

เพราะฉะนั้นต้องดึงคนจนขึ้นมาให้พ้นจากขีดเหล่านี้ ให้โอกาสเขาทางด้านการศึกษา ทางด้านเทคโนโลยี และระบบการศึกษาไทยต้องเปลี่ยน กฎหมายนำเนี่ย มันเจ๊งหมดแล้ว เพราะว่ารูปแบบเดิมมันทำไม่ได้ ต้องกลายเป็นการศึกษารูปแบบใหม่

จนเมืองนอกเดี๋ยวนี้เขาไม่สนใจปริญญา เขาสนใจว่าคุณรู้เรื่องอะไรบ้าง คิดตั้งแต่วันนี้ครับ ถ้าคิดช้ากว่านี้ คนชั้นกลางก็จะเป็นคนจนต่อไป ไม่ใช่ว่าเอาคนจนขึ้นมาพ้นจากความยากจนนะ คนชั้นกลางเราจะตกชั้นด้วย ถ้าหากว่าเราไม่คิดล่วงหน้า ถึงเวลาแล้วครับ คิดล่วงหน้า ตามให้ทันโลก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน