“รุ้ง ปนัสยา” อ่านจดหมายเปิดผนึกหน้า “ศาลอาญา-ศาลรัฐธรรมนูญ-กระทรวงยุติธรรม ฯลฯ” เรียกร้องปล่อย 4 เเกนนำสู้คดี ตามสิทธิรัฐธรรมนูญ

เมื่อเวลา 12.00 น.เศษ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 64 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก น.ส. ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง” แกนนำกลุ่มราษฎร เดินทางมายื่นจดหมายเปิดผนึกของเเนวร่วมธรรมศาสตร์เเละการชุมนุม พร้อมอ่านเเถลงการณ์หน้าป้ายศาลอาญาริมถนน รัชดาภิเษก ถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม หลังจากนั้นได้เข้ามายื่นหนังสือ โดยมี น.ส.ชวัลนาถ ทองสม ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา เป็นผู้รับมอบ

โดยภายหลังยื่นหนังสือ น.ส. ปนัสยา กล่าวว่า เราอยากให้ศาลรับทราบและให้ความสำคัญว่าจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษา เช่นนั้นแล้วการปฏิบัตินั้นศาลจะทำเหมือนกับว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดไม่ได้ เราจะให้ถูกขังระหว่างพิจารณาคดี ทั้งที่คดียังไม่สิ้นสุดไม่ได้ ต้องให้สิทธิประกันตัวเช่นเดียวกับคดีอื่นๆ ในประเทศนี้แม้แต่คดีฆ่าคนโดยเจตนายังได้รับการประกันตัว ดังนั้นในคดีการเมืองก็ต้องได้รับประกันตัวเช่นกัน

ในวันนี้ที่เราเดินทางมาทั้ง 5 แห่ง เพราะเป็นสายธารของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเห็นภาพได้ชัดเจน อย่างมาที่ศาลอาญา เพราะว่าคดีนี้เป็นคดีอาญาและมีคำสั่งไม่ให้เพื่อนเราได้ประกันตัว ซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ หลังจากนี้เราก็จะเดินทางไปที่สำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป

เมื่อถามว่า มีนัยยะสำคัญอย่างไรจึงต้องเดินทางไปที่สำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ปนัสยาตอบว่า เกี่ยวกับนโยบายในการจัดการกับผู้ชุมนุม ซึ่งนโยบายต้องมาจากรัฐบาล ส่วนสตช.เกี่ยวข้องตรงที่กระบวนการทางการฎหมายจะเริ่มที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนเป็นที่แรก เริ่มตั้งแต่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา หรือมีการใช้อำนาจเกินขอบเขต

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเกินไปจากการควบคุมดูแลของเราบ้าง น.ส.ปนัสยา ตอบว่า ขอโทษอย่างจริงใจกับผู้ชุมนุมที่เราไม่สามารถดูแลสถานการณ์ได้ ซึ่งเหนือความคาดหมายมากจริงๆ แต่หลังจากนี้ยืนยันให้ความเชื่อมั่นว่าจะดูแลพวกเราทุกคนเป็นอย่างดี ในวันพรุ่งนี้ตนมีคดีความและอาจจะไม่อยู่แล้ว แต่ว่าคนที่เหลือพร้อมจะทำหน้าที่เพื่อให้กระบวนการเคลื่อนไหวของเราไปสู่จุดหมายในที่สุด โดยที่จะไม่มีใครเจ็บตัวหรือเจ็บตัวให้น้อยที่สุด อันนี้คือความปลอดภัยของผู้ชุมนุม

เมื่อถามว่าหากในวันพรุ่งนี้ต้องเข้าเรือนจำแล้วการชุมนุมวันที่ 20 ก.พ.ที่นัดหมายไว้ว่าหากครบกำหนด 7 วัน ไม่มีการปล่อยตัว 4 แกนนำ จะมีการชุมนุมอีกครั้งจะมีแนวทางอย่างไร น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า ยังคงต้องมีการชุมนุมเพราะนัดหมายไว้แล้ว ส่วนรูปแบบและการเคลื่อนไหวจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ตอนนี้ก็มีการพูดคุยถกเถียงเรื่องการปรับกลยุทธ์ ยุทธศาสตร์ต่างๆ ขอยังไม่พูด เพราะส่วนตัวยังไม่ทราบว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามเป็นหน้าที่ของคนที่ยังอยู่จะพาขบวนการไปสู่เป้าหมายให้ได้ ซึ่งขอโอกาสเชื่อมั่นในตัวเราว่าเราจะทำอย่างดีที่สุดอย่างแน่นอน

น.ส.ปนัสยา ยังกล่าวด้วยว่าตนเองเตรียมใจไว้แล้วกับการที่วันพรุ่งนี้(17 ก.พ.)อัยการจะพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องตนเองในคดีมาตรา 112 หรือไม่ เพราะมันเป็นคดีเดียวกับทั้ง 4 แกนนำ เพราะธงมันออกมาชัดเจนแล้วว่าเขาต้องการให้เราเข้าไปถูกขังและไม่ได้รับการประกันตัว ซึ่งคาดเดาไว้ว่าพรุ่งนี้เราจะต้องถูกนำตัวเข้าเรือนจำ และแม้ตนจะต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำก็คิดว่าไม่มีผลกระทบมากต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มราษฎร เพราะเราก็เป็นเพียงฟันเฟืองหนึ่งในกระบวนการนี้ เพราะยังมีคนอื่นที่พร้อมจะออกมาต่อสู้และยังมีมวลชนอีกมากมายที่แม้ไม่มีแกนนำเขาก็พร้อมที่จะออกมาต่อสู้

เมื่อถามว่าการมายื่นหนังสือครั้งนี้เป็นการกดดันศาลหรือไม่ น.ส.ปนัสยา กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะนี้เป็นการมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมตามขั้นตอนปกติ ไม่ได้เป็นการกดดันศาลแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งเเต่ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ประจำศาลอาญาได้มีการเตรียมความพร้อมหน้าศาลอาญา โดยมีการนำแผงเหล็กมาวางเป็นแนวกันบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้า

พร้อมเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ตำรวจ สน.พหลโยธิน และ กองร้อยควบคุมฝูงชน บก.น.2 จำนวน 60 นาย ทั้งในและนอกเครื่องเเบบตั้งแถวเรียงยาวดูแลความเรียบร้อยป้องกันกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยก่อนหน้านี้ น.ส.ปนัสยา เริ่มอ่านจดหมายจากศาลรัฐธรรมนูญ ต่อด้วย กระทรวงยุติธรรม ก่อนมายังศาลอาญารัชดา ต่อไปยัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เเละจุดสุดท้ายคือสำนักนายกรัฐมนตรี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน