อนุทิน โวไทยรับมือโควิดดี ไม่ต้องตกใจได้วัคซีน มิ.ย. มั่นใจเพียงพอ ประชาชนได้ครบ แจงเลือกแอสตราเซเนกา เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน
เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 17 ก.พ. 2564 ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ชี้แจงถึงกรณีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายปมวัคซีนโควิด-19 ที่ได้ล่าช้า ว่า พอเจอคำว่าสำเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุล และคนที่เข้าคุณสมบัตินี้มาใช้สภาอันทรงเกียรติแห่งนี้กล่าวโกหกคำโต เพื่อให้เกิดความสับสนกับประชาชน โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพซึ่งสำคัญมากท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดร้ายแรง แทนที่จะปลอบให้กำลังใจกัน กลับนำข้อมูลตามโซเชียลมีเดียที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ข้อเท็จจริงมาเผยแพร่ในสภาอันทรงเกียรติ

“ท่านเริ่มจากมหากาพย์วัคซีนวันนี้จะชำแหละรมว.สาธารณสุข ท่านบอกรมว.สาธารณสุข น่ารังเกียจอยู่ใกล้ๆ ก็ยังไม่อยากจะอยู่ด้วย แต่ก่อนหน้านี้เจอกันหน้าห้องน้ำกราบแทบถึงอก ทำไมต้องมาว่ากันเรื่องนี้เราไม่ได้เกลียดกัน ถ้าผมพูดบ้างว่าพอผมขึ้นมาบนนี้ ผมเอาแอลกอฮอล์ฉีดเนคไทของผม ท่านจะรู้สึกอย่างไร”

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ขอให้คำยืนยันว่าภายในเดือนก.พ. วัคซีนล็อตแรก 2 แสนโดส จะมาถึงไทย และจะพยายามฉีดให้เร็วที่สุด ภายในเดือน มี.ค. วัคซีนล็อตที่ 2 จะมาถึงไทย 8 แสนโดส เดือน เม.ย. 1 ล้านโดส และปลายเดือน พ.ค. หรือต้นเดือน มิ.ย. วัควีนที่ผลิตในไทยยี่ห้อแอสตราเซเนกาไม่ใช่สยามไบโอไซเอนซ์ จะทำการส่งและฉีดให้คนไทยครบถ้วน

“ส่วนที่อภิปรายว่าผมล่าช้าลอยชายกับเรื่องวัคซีน ขอให้ท่านทราบเลยว่าตั้งแต่คำว่าโควิดเข้ามาในสมอง คำต่อไปที่คิดคือคำว่าวัคซีน นี่คือเหตุผลที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ จึงได้รับการสนับสนุนงบประมาณ 3 พันล้านบาท ให้ไปดำเนินการทุกวิถีทางในการศึกษาพัฒนา หรือแม้แต่จัดซื้อหากจำเป็น ทั้งหมดได้รับการสนับสนุนจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างดี”

รมว.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า ท่านกล้าพูดหรือไม่ว่าบริษัทแอสตราเซเนกาเป็นบริษัทที่เชื่อถือไม่ได้ กว่าที่เขาจะยอมให้เราซื้อเขา เขาต้องผ่านกระบวนการทดสอบขั้นต้นมาอย่างมากแล้ว ในกรณีวัคซีนแอสตราเซเนกาที่ใช้ในประเทศไทยนั้น เป็นวัคซีนที่เขาร่วมผลิตกับมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด และใช้เทคโนโลยีผ่านการเชื่อมต่อ โดยไทยมีกลุ่มธุรกิจที่ถือว่าใหญ่โตระดับโลกเขามีคอนเนคชั่น เขาได้ประสานมาที่กระทรวงสาธารณสุข และนายกฯ ว่า มีเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนที่ดูแล้วน่าจะเหมาะสมกับไทย ที่สำคัญเขาเชื่อว่าถ้าไทยได้เป็นฐานการผลิต วัคซีนนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการช่วยเหลือมนุษยชาติ ไม่ใช่แค่ไทยแต่เป็นอาเซียนด้วย

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า นี่คือเราพูดถึงเดือนส.ค.-ก.ย. แต่ท่านผู้อภิปรายเอาวันที่วัคซีนมีการขึ้นทะเบียนแล้วหลายรายมาพูด แต่ตอนนั้นไม่มีบริษัทไหนที่บอกว่าตัวเองผลิตวัคซีนสำเร็จ มีแต่บอกว่ากำลังผลิต แต่ถ้าประเทศไหนต้องการความมั่นใจว่าจะได้วัคซีนแน่ๆ เมื่อผลิตวัคซีนสำเร็จแล้วขอให้ลงเงินมา ถ้ามีผลสำเร็จก็ได้รับวัคซีนก่อน แต่ถ้าล้มเหลวถือว่าล้มเหลวร่วมกัน นั่นคือแบบกินเปล่า

“ส่วนที่ว่าทำไมไม่พิจารณาให้บริษัทแอสตราเซเนกา ลองติดต่อหาบริษัทที่สามารถผลิตวัคซีนนี้ได้ในไทย ถ้าทำได้ ทุกอย่างจะอยู่ภายใต้การควบคุมของคนที่อยู่ในไทย ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล สุดท้ายเขาก็ไปเจรจากัน และมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีกัน ซึ่งเป็นการตกลงกันระหว่างบริษัทแอสตราเซเนกากับบริษัทในไทย”

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขกับรัฐบาลไทย เห็นว่าเทคโนโลยีนี้มีโอกาสประสบผลสำเร็จอย่างสูง มีการศึกษาแล้ว ได้รับการสนับสนุนและได้รับข้อแนะนำที่ดีมากจากบรรดาอาจารย์แพทย์ ว่าเราต้องเลือกทางนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ ซึ่งบริษัทแอสตราเซเนกาไม่ได้เลือกบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์เพียงบริษัทเดียว ก่อนตัดสินใจเลือกให้เป็นผู้ผลิต เขาไปดูประสิทธิภาพของบริษัทยาอื่นๆ ในไทยจำนวนมาก แต่สุดท้ายเขาเลือกบริษัทสยามไบไอไซเอนซ์ เพราะสามารถผลิตชีววัตถุที่มีความคงที่ที่สุด ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตวัคซีนตามเทคโนโลยีของเขา เขาจึงเริ่มเจรจาการผลิตวัคซีนกับไทย

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ที่สำคัญตนต้องหาวัคซีนให้ประชาชนได้อย่างครอบคลุมไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังในเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ ประเทศไทยในเดือน ต.ค.-พ.ย. 2563 เป็นประเทศที่รับมือโควิดได้ดีลำดับต้นๆ ของโลก ดังนั้น การที่วัคซีนจะมาเดือน มิ.ย. ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนต้องตกใจ แต่พอมาถึงสิ้นปีกลับมีเหตุการณ์ที่ จ.สมุทรสาคร และเชียงราย

“สิ่งที่ท่านบอกเราไม่ได้เตรียมตัวนั้น วัคซีนจากจีนไม่ได้อยู่ในโรดแม็ปของเราเลย แต่ด้วยความสามารถของบุคลากรด้านสาธารณสุข ทำให้เราสามารถติดต่อบริษัทที่จีน เพื่อขอวัคซีนมารองรับสถานการณ์ฉุกเฉินก่อน เราต้องซื้อจากเจ้าที่ส่งให้เราได้ในเดือน ก.พ. เจ้าที่ท่านบอกมาส่งให้เราไม่ได้ แม้แต่สัปดาห์ผ่านมายังมี 2-3 บริษัทเข้ามาหาตน ทั้งที่เขารู้ว่าบริษัทแอสตราเซเนกาจะส่งให้เราเดือนมิ.ย.แล้ว เขายังบอกว่าเร็วที่สุดที่เขาจะส่งได้คือไตรมาส 3 ซึ่งช่วงนั้นวัคซีนที่ผลิตในไทยอยู่เต็มโรงพยาบาลแล้ว”

รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า เรามีวัคซีน 63 ล้านโดส เพียงพอที่จะครอบคลุมกลุ่มเสี่ยง วัคซีนจะไม่พอเก็บ เราได้บริหารจัดการวางแผนเป็นระบบ ไม่เที่ยวไปลบหลู่ดูหมิ่น พูดสิ่งที่บั่นทอนกำลังใจคนทำงาน ไม่ใช้วาจาสามหาว พูดในสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการอภิปราย กลิ่นหนูตายเน่าพอๆ กับกลิ่นปากเหม็นไม่ต่างกัน แต่ตนเชื่อว่าตนยังทำประโยชน์ให้บ้านเมือง และประเทศได้มากกว่า เอาไว้ท่านมีโอกาสเข้ามาก่อน ค่อยมาพิสูจน์กัน

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าวัคซีนที่จะให้ประชาชนคนไทยเหมาะสมเข้าถึงง่ายที่สุด ไม่มีวันถูกตัดคิว ไม่มีวันถูกคนอื่นมาแย่ง อะไรก็ตามที่เรามั่นใจว่าเพียงพอแล้ว สามารถให้บริการประชาชนได้ครบถ้วน และเรายังมีทางเลือกอื่นอีกมาก บุคคล 2 คนที่ท่านบอกว่าน่ารังเกียจไม่ควรเข้าใกล้ ไม่ควรแม้แต่เข้ากระทรวงได้ ต้องติดป้ายห้าม สองคนนี้แหละทำให้ อสม.เข้มแข็งขึ้น ทำให้มีโครงการสามหมอ ทำให้ระบบการสาธารณสุขได้มีการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพ และอื่นๆ

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนได้แจ้งมานี้ ถ้าท่านยังบอกว่านายกฯ และตนน่ารังเกียจ ไม่ควรเดินเข้ากระทรวง ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็ต้องยอม แต่ประเด็นคือท่านโกหกจนนาทีสุดท้าย บอกว่าไปไหนมีแต่คนยี้ไม่เอาด้วยน่ารังเกียจ ตนว่าตรงกันข้าม ตนว่าคนรังเกียจกิริยาเช่นนี้มากกว่า อายุยังน้อย เราทำงานสร้างสรรค์เพื่อบ้านเมือง เป็นส.ส.ก็ขอให้เป็นผู้แทนของราษฎร เรื่องส่วนตัวค่อยว่ากัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน