‘โรม’ แฉโยกย้ายตร. สภาฯป่วน-ประท้วงวุ่น พ้ออีก 3 เดือนไม่รู้ได้เป็นผู้แทนปชช.หรือไม่ ลั่นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่เสียใจที่ได้ทำหน้าที่ในวันนี้

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 ก.พ. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ว่า

ทั้งสองบริหารราชแผ่นดินล้มเหลว และไม่โปร่งใสต่อการบริหารราชการตำรวจ จนกลายเป็นที่ซ่องสุมกลุ่มที่จะกอบโกยยศและตำแหน่งไว้กับตนเองและพวกพ้อง ตั้งแต่สมัยพล.อ.ประวิตร กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ตั้งแต่ปี 2557 มีการปล่อยปละละเลยให้ผู้ไม่มีอำนาจหน้าที่เข้ามาบงการการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่ง จนก่อให้เกิดระบบอุปถัมภ์ และการใช้เส้นสายในวงการตำรวจ เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ เข้ามากำกับดูแลด้วยตนเอง ก็ยังปล่อยให้คนเหล่านั้นลอยนวลต่อไป ทำให้วงการตำรวจเพิกเฉยต่ออาชญากรรม กระทำกับผู้บริสุทธิ์ เปิดบ่อนไม่ว่า ค้ายาไม่สอบ เจอเจ้าพ่อน้อมนอบ แต่เจอม็อบสู้ตาย

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ทำให้เป็นเวทีของคนฝั่งรัฐบาลและตำรวจมาพูดคุยและตัดสินใจในงานของตำรวจและการโยกย้าย แต่กลับละเลยการดูแลปัญหา จนเกิดปัญหาเรื่องตั๋วตำรวจ ตั๋วที่มีแล้วจะได้ทุกอย่าง ซื้อตำแหน่งได้ในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม และมีการทำหนังสือราชการ

เป็นตั๋วจากคนไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอสนับสนุนการขอรับตำแหน่งให้กับนายตำรวจบางนายข้ามหน่วยงาน ถามว่าอาศัยกฎหมายอะไร เพราะการแต่งตั้งมีขั้นตอนตามกฎระเบียบและกฎหมายอยู่แล้ว ถามว่าพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร รับทราบเรื่องนี้หรือไม่ รวมทั้งการเลื่อนขั้นนายตำรวจบางนายที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ก.ตร. ทำให้คนทำงานเสียกำลังใจและทำลายระบบคุณธรรมของตำรวจ

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ดังนั้น ข้อกล่าวหาคือ นายกฯ และพล.อ.ประวิตร ปล่อยให้บุคคลภายนอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ามาแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย ทำให้ตำรวจจำนวนมากต้องไปปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยอื่น ซึ่งตั๋วที่ตนรวบรวมมานั้น มีทั้งของผบ.ตร. พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึง “ตั๋วช้าง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายรังสิมันต์พูดถึงตั๋ว ได้ถูกประท้วงจากบรรดาส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ขณะที่ประธานในที่ประชุม ขอไม่ให้อภิปรายเรื่องตั๋วอีก

นายรังสิมันต์ กล่าวในตอนท้ายว่า ในการทำหน้าที่ส.ส.รู้ว่าครั้งนี้เป็นการทำหน้าที่อันตรายที่สุดในชีวิต แต่เมื่อประชาชนเลือกมาแล้วก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ตนไม่รู้ว่าผลจากการทำหน้าที่ในวันนี้ จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ไม่รู้ว่า 3 วันข้างหน้าหรือ 3 เดือนข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น จะยังพูดแทนประชาชนได้หรือไม่ แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตนไม่เสียใจที่ได้ทำหน้าที่ในวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และพล.อ.ประวิตร นายรังสิมันต์ ได้กล่าวพาดพิงถึงบุคคลภายนอกบ่อยครั้ง โดยเฉพาะบิ๊กข้าราชการตำรวจระดับสูงหลายนาย จนทำให้นายสุชาติ ตันเจริญ และนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่ 1 และ 2 ซึ่งสลับกันทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ต้องคอยกำชับเป็นระยะ ว่าห้ามพาดพิงบุคคลภายนอก หากยังพูดพาดพิงอีกจะไม่อนุญาตให้อภิปรายต่อ ซึ่งระหว่างนั้นมีส.ส.พรรคพลังประชารัฐหลายคนลุกขึ้นประท้วง ขอให้อภิปรายในประเด็น ขณะที่ส.ส.พรรคฝ่ายค้านหลายคนก็ประท้วงการทำหน้าที่ของประธานที่ประชุมเช่นกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน