‘ทูตนริศโรจน์’ ค้านตั้ง “อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 เป็น ‘ทูตด้านสุขภาพจิต’ ซัด ไม่เห็นความจริง อยู่โลกคู่ขนาน ล่าสุด ปลดพ้นจากตำแหน่งแล้ว

วานนี้ (1 มี.ค.) นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า การจะประกาศแต่งตั้งใครให้เป็น “ทูตกิตติมศักดิ์” ในตำแหน่งสาขาด้านใดด้านหนึ่ง บุคคลนั้นจะต้องมีประวัติและพฤติกรรมที่ เคลียร์ สมเป็นตัวแทนประเทศจริงๆ

แต่ถ้าไปเอาคนที่ประวัติและพฤติกรรมไม่เคลียร์มาเป็น “ทูตกิตติมศักดิ์” แล้ว ดันมีคนไปขุดคุ้ยเจอเรื่องราวการแสดงออกทั้งวาจาและคำพูดของบุคคลนั้นๆ ซึ่งไม่เหมาะสมกับการเป็น บุคคลสาธารณะ (public figure) เพราะบุคคลนั้นๆขาดการไตร่ตรอง ไม่มองให้รอบด้าน ไม่เป็นกลาง หรือใช้ fake news นำไปเผยแพร่ขยายความเพื่อประจานประเทศตัวเอง ก็ย่อมก่อให้เกิดปัญหาขัดแย้งทางสังคมตามมาอย่างช่วยไม่ได้ !

แบบนี้ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ทำให้คนที่ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยทะเลาะกันวุ่นวายจน “เสียสุขภาพจิต” กันไปหมด นี่เป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างดีว่าตำแหน่งกิตติมศักดิ์ที่งุบงิบยัดเยียดแต่งตั้งกันเพื่อหวังผลประดับ profile ของบุคคลนั้นๆ fail ไม่สง่างามและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

นายนริศโรจน์ โพสต์ข้อความอีกว่า โพสต์นี้ นางงามคนหนึ่งเคยโพสต์ไว้โดยมีตราสัญลักษณ์ 3 ขีด เมื่อตอนม็อบโดนฉีดน้ำ โดยใช้ข้อมูลที่บิดเบือนหลายอย่าง เรียกร้องให้ต่างชาติมาช่วยม็อบ 3 นิ้วที่ได้กระทำการหลายอย่างที่ผิดกฏหมายและดูหมิ่นสถาบัน ดังปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ในตอนนี้มากมาย ถึงแม้ต่อมาเธอจะลบไป แต่สิ่งที่เธอโพสท์มันสำเร็จแล้ว และมีคนแคปไว้ทัน และแล้วหน่วยงานหนึ่งก็มอบตำแหน่ง “ทูตกิตติมศักดิ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพจิต” ให้เธอ ! ถามความรู้สึกเพื่อนๆหน่อยครับว่า รับได้มั้ย? นายนริศโรจน์ ได้เขียนในคอมเม้นท์ว่า ประโยคเด็ดของนางคือ ”not to mention the power behind the curtain that sustains it“ นางหมายถึงใคร !!!!????

ทั้งนี้ นายนริศโรจน์ ยังได้โพสต์ข้อความอีกว่า มี ตร.ตายไป 1 นาย มีการทำลายทรัพย์สินราชการ
มีการจุดไฟทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ ทูตสุขภาพจิตอยู่ไหน? และ อยากเห็นทูตสุขภาพจิตโพสท์ให้กำลังใจแก่ตำรวจที่ตายและเจ็บจากความรุนแรงของม็อบ จะได้เห็นมั้ย? เพื่อความเป็นกลางไง !

และอีกหลายข้อความสำหรับกรณีดังกล่าว เช่น ถ้าสังคมมันโหดร้ายและรันทดมาก ผู้คนโดนทำร้ายอย่างอยุติธรรมมาตลอด 6 ปี อย่างที่ Amanda บอก คงไม่มีเวทีการประกวด MUT คงไม่มีระบบ infrastructure รถไฟฟ้า ถนนหนทางเพิ่มขยายมากขึ้น คนที่ป่วยโควิดคงจะมากพอๆกับอินเดีย บราซิล ที่คนตายเป็นแสน แต่ทำไมเราไม่รู้สึกเหมือน Amanda เลย แถมกลับรู้สึกอยู่สบาย มองเห็นอนาคตเมืองไทยเจริญเติบโตทุกวัน Amanda เธออยู่ในโลกคู่ขนานอีกดวงใช่มั้ย !?

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ กรมสุขภาพจิตและกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ได้ตกลงร่วมมือกันด้านการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์การทำงานด้านสุขภาพจิตของกระทรวงสาธารณสุข รวมไปถึงสนับสนุนการดำเนินงานด้านสุขภาพจิตของกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ โดยเบื้องต้นมอบหมายให้ อแมนด้า – ชาลิสา ออบดัม เจ้าของตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ขึ้นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของกรมสุขภาพจิต หรือ ทูตด้านสุขภาพจิต

และล่าสุด มีรายงานว่า กรมสุขภาพจิต ปลด อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 พ้นจากตำแหน่ง ทูตด้านสุขภาพจิต หลังนางงามดังออกมา Call Out ต่อเนื่อง โดยกรมสุขภาพจิต ระบุเหตุผลในการปลดตอนหนึ่ง ระบุว่า

“กรมสุขภาพจิตรับทราบถึงความกังวลใจของประชาชนในขณะนี้ และกรมสุขภาพจิตไม่สามารถดำเนินภารกิจที่อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งและสร้างความไม่สบายใจแก่ประชาชนในสังคมได้ ทั้งนี้กรมสุขภาพจิตได้มีการปรึกษาหารือกับกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์และรับทราบร่วมกันถึงความกังวลใจของประชาชน ทางกรมสุขภาพจิตจึงขอยุติบทบาทภารกิจทูตด้านสุขภาพจิตดังกล่าวตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป” โดยหลังจากมีการปลด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 พ้นจากตำแหน่งดังกล่าว นายนริศโรจน์ ได้โพสต์ขอบคุณกรมสุขภาพจิต โดยระบุสั้นๆว่า ขอบคุณที่รับฟังเสียงประชาชน

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน