“ธัญวัจน์” ชี้ กรณี “อแมนด้า” ถูกปลดพ้น ทูตกรมสุขภาพจิต บ่มเพาะอำนาจนิยม ย้ำ รัฐและกรมสุขภาพจิตต้องรับฟังผู้เห็นต่าง
เมื่อวันที่ 2 มี.ค. นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี น.ส.อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 แสดงจุดยืนทางการเมือง ส่งผลให้วันนี้กรมสุขภาพจิต โดยแพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต ออกมาให้ข่าวการปลดน.ส.อแมนด้า ออกจากตำแหน่ง ทูตด้านสุขภาพจิต เนื่องจากไม่สามารถดำเนินภารกิจที่อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งและสร้างความไม่สบายใจต่อสังคมได้ โดยการปลดครั้งนี้ได้ปรึกษาหารือกับกองประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส และทราบถึงข้อกังวลใจต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น กรมสุขภาพจิตจึงขอยุติบทบาทกับอแมนด้า จากนี้เป็นต้นไป
นายธัญวัจน์ กล่าวว่า การตัดสินใจปลด อแมนด้านั้นเชื่อว่าผลที่กรมสุขภาพจิตได้รับน่าจะเป็นสิ่งตรงกันข้ามที่กรมสุขภาพจิตกังวล เพราะนี่คือการแสดงให้เห็นว่า “คนคิดต่าง” ไม่มีที่ยืนในสังคม และแสดงถึงความใจแคบของผู้บริหารที่ออกแถลงการณ์แบบนี้ เพราะคนคิดต่างนั้นควรได้รับการรับฟัง และเปิดพื้นที่ให้แสดงความคิดเห็นนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในทุกๆ ด้าน การปลดไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา แต่เป็นการซ้ำเติม และยิ่งทำให้เห็นชัดว่าสังคมไทยมีหน้าตาและความโหดร้ายอย่างไร
นายธัญวัจน์กล่าวต่อว่า ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความขัดแย้ง ตนเชื่อว่าประชาชนต้องการเห็นการทำงานของกรมสุขภาพจิตในด้านการสื่อสาร ให้ความรู้ความเข้าใจทางการเมืองในครอบครัวที่มีความไม่เข้าใจกัน หรือแก้ปัญหา ให้คำปรึกษาในครอบครัวที่มีความแตกต่างในด้านยุคสมัย หรือวิธีการจัดการความขัดแย้งทางการเมืองในครอบครัว เพื่อเป้าหมายและส่งเสริมการยอมรับกันในความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่กรมสุขภาพจิตกลับทำสิ่งนี้เสียเองคือ “การไม่ยอมรับกัน”
“ขอฝากถึงอแมนด้า มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ว่า จงยึดมั่นในความยุติธรรม และไม่จำเป็นต้องเกรงกลัว เพราะเรามีสิทธิอันชอบธรรมที่จะแสดงความคิดเห็นด้านการเมือง และขอให้กำลังในสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำอันใจแคบต่ออแมนด้า และคิดว่าเมื่ออแมนด้าเดินทางไปประกวดนางงามจักรวาลที่ต่างประเทศ เธอคงได้แบ่งปันเรื่องราวทางการเมืองและสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ ที่อาจจะทำให้กรมสุขภาพจิตต้องมานั่งปรึกษาแพทย์กันเอง” นายธัญวัจน์ กล่าว
