ผบ.ตร. เตรียมปรับเกณฑ์ตำรวจ-คัดกรองโรค มาคุมม็อบ หลังมีตร.เสียชีวิต แจงการจับทาง แอมมี่ เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย จากนี้จะนำส่งศาลอาญา

วันที่ 3 มี.ค. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการนัดชุมนุมของกลุ่มทางการเมืองว่า วันนี้ เป็นการประชุมทบทวนและถอดบทเรียนจากการชุมนุมที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีลักษณะกระจายตัว ทำให้ตำรวจต้องปรับแผนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ

ส่วนการชุมนุมวันที่ 6 มี.ค. นี้ ผู้ชุมนุมบางกลุ่มยังไม่มีข้อสรุป ตำรวจอยู่ระหว่างประเมินตามสถานการณ์ ส่วนมาตรการรับมือหากกลุ่มผู้ชุมนุมก่อเหตุเผาทำลายสถานที่สำคัญ ทำลายทรัพย์สินส่วนราชการ หรือแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ ทางตำรวจจะดำเนินคดีทุกราย อย่างไรก็ตาม การจับกุมดำเนินคดีไม่ใช่ทางออกของการแก้ไขปัญหา

เมื่อถามว่าทางผู้ชุมนุมตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำความผิดหลังจากนี้ ตำรวจจะไม่ให้ประกันเหมือนกับ 4 แกนนำ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า จะพูดแบบนั้นไม่ได้ การให้ประกันไม่ใช่อำนาจตำรวจ เป็นอำนาจของศาล ในชั้นสอบสวนปกติตำรวจก็ไม่ได้ให้ประกันอยู่แล้ว เว้นแต่ว่าเป็นกรณีที่อัตราโทษต่ำ มีหมายเรียกแล้วเขามาก็ต้องรับตัวไว้ ส่วนการจับกุม นายไชยอมร หรือแอมมี่ นั้น เป็นไปตามขั้นตอนและตำรวจมีหลักฐานชัดเจน หลังจากนี้จะนำตัวไปฝากขังศาลอาญา รัชดา

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า กรณีที่มี ร.ต.อ. เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา จึงได้สั่งการให้ปรับมาตรการคัดกรองโรคกลุ่มเสี่ยงสำหรับผู้ที่จะมาทำหน้าที่ควบคุมฝูงชน จากเดิมที่กำหนดเกณฑ์อายุ 50 ปีขึ้นไป ปรับลดเป็น 45 ปี ขึ้นไป พร้อมกำชับผู้บังคับบัญชาให้เข้มงวดเรื่องการตรวจสุขภาพของผู้ใต้บังคับบัญชาที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ในทุกระดับชั้น การสูญเสียที่เกิดขึ้นตำรวจไม่ได้เสียขวัญ แต่ยอมรับว่าบางครั้งเรื่องสุขภาพไม่สามารถควบคุมได้จึงขอให้นำกลับไปเป็นบทเรียน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน