เอาแล้ว เลือกซ่อมเมืองคอนฯ เดือด “แรมโบ้” ซัด “จุรินทร์” อย่าปราศรัยเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น เตือนระวังคำพูดด้วย ปชป.ได้เป็นรัฐบาล เพราะใคร

เมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยใหญ่ช่วยผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช ระบุ พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ก่อตั้งมานาน เป็นสถาบันทางการเมือง ไม่เหมือนบางพรรคการเมืองตั้งมาเพื่อสนับสนุนให้ใครคนใดคนหนึ่งขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า

หากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หมายถึงพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย และพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อเลือกนายกฯ เพียงอย่างเดียว พรรคมีนโยบายมากมายที่ทำให้ประชาชน และการเลือกพล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกฯ เพราะที่ผ่านมาทำงานเพื่อบ้านเมือง แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

“นายจุรินทร์ไม่ควรเอาเรื่องดังกล่าวมาปราศรัยหาสียง เพียงเพื่อขอคะแนนกับประชาชนเพียงหวังชนะการเลือกตั้งโดยไม่ระมัดระวังคำพูด เข้าใจว่านายจุรินทร์ ต้องหาเสียงช่วยผู้สมัครของพรรค แต่การปราศรัยพาดพิงพรรคอื่นหรือบุคคลอื่นในลักษณะเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เป็นการดูถูก พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ทำให้ประชาชนเข้าใจในพรรคพลังประชารัฐหรือนายกรัฐมนตรีผิดไป”นายสุภรณ์กล่าว

นายสุภรณ์ กล่าวต่อด้วยว่า นายจุรินทร์ ต้องอย่าลืมว่าที่พรรคประชาธิปัตย์ และนายจุรินทร์ ได้เข้าร่วมรัฐบาล เป็นรองนายกรัฐมนตรี เป็นรมว.พาณิชย์ ส่วนหนึ่งก็มาจากพรรคพลังประชารัฐ และมาจากพล.อ.ประยุทธ์เช่นกัน สิ่งสำคัญนโยบายต่างๆ ในการช่วยเหลือประชาชนในหลายนโยบาย ก็มาจากแนวคิดพรรคพลังประชารัฐ และของนายกฯ ในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย

ดังนั้น หากนายจุรินทร์จะพูดอะไรออกไป ขอให้คิดก่อน หรือให้เกียรตินายกฯ หรือพรรคร่วมบ้าง เพราะตนก็มั่นใจว่านายกฯ เองก็ให้เกียรตินายจุรินทร์ ในฐานะคนทำงานร่วมกัน ที่มีความจริงใจให้กัน

“ผมเองก็พอทราบ มีพรรคการเมืองในรัฐบาลจ้องแต่ขออนุมัติวงเงินใน ครม. โดยไม่ได้มีแนวความคิดช่วยเหลือหาเงินช่วยรัฐบาลเลย ใช้แต่เงินแก้ปัญหาเพื่อหาเสียงให้มีผลงาน ขอเงิน ครม.ลูกเดียว อย่างนี้ใครก็เป็นรัฐมนตรีได้ ถ้าขอเงินลูกเดียวไม่ต้องใช้สมองแก้ปัญหา ไม่คิดริเริ่มมาตรการใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงตามยุคดิจิทัล

ซึ่งตรงกันข้ามกลับมองว่า นายกรัฐมนตรีมีแนวความคิดตั้งหลายเรื่อง อาทิเช่น ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย แรงงานต่างด้าว คนละครึ่ง เราชนะ เรารักกัน ก็เพื่อนำข้อมูลเข้าสู่ฐานดิจิทัล เพราะจะได้ใช้ข้อมูลในการกำหนดนโยบายให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม ไม่มั่วไม่หว่านแหสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน ไม่ใช่คิดแต่จะผลาญงบประมาณเพื่อหวังผลทางการเมืองของพรรคตนเอง

ผมไม่อยากเห็นการใช้เวทีหาเสียงเลือกตั้งมาปราศรัยเพื่อให้เกิดความรู้สึกที่อึดอัด ไม่สบายใจต่อกัน และไม่อยากให้เสียบรรยากาศในการทำงานร่วมกันของร่วมพรรครัฐบาล แต่ถ้าเป็นเพียงการปราศรัยแบบกลอนพาไป ก็พออโหสิกรรมกันไป เพราะยังไงยังต้องลงเรือลำเดียวกัน ขอวิงวอนช่วยกรุณาระมัดระวังคำปราศรัยที่จะทำให้เกิดความรู้สึกที่สะกิดใจกัน ยังไงยังต้องจับมือกันเพื่อประเทศชาติและประชาชนจนหมดวาระของรัฐบาลนี้” นายสุภรณ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน