“ปารีณา” ทำหนังสือถึง ป.ป.ช. ขอความเป็นธรรม ก่อนส่งศาลฎีกา เอาผิดจริยธรรม หวังศาลเห็นต่างไม่ให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ ส.ส. วอนสังคมอย่าด่วนตัดสิน
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 15 มี.ค.64 ที่รัฐสภา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่าฝ่ายกฎหมายของตนได้ให้ส่งหนังสือขอความเมตตาและขอทบทวน ไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ก่อนที่จะส่งให้ศาลฎีกา วินิจฉัยเอาผิดจริยธรรมตน เพราะมีข้อเท็จจริงปรากฏเกิดขึ้น ทั้งนี้ ส่วนตัวต้องให้สังคมตัดสินด้วย เพราะถือเป็นคดีแรกที่กฎหมายป.ป.ช.ฉบับใหม่ ให้อำนาจป.ป.ช.พิจารณาจริยธรรมส.ส.ด้วยและถึงวันนี้สภาผ่านมา 2 ปี มีตนคนเดียวถูกดำเนินคดี
- ทำไม่ทัน! ป.ป.ช. ยื่นเลื่อนศาลฎีกาเอาผิดจริยธรรม ‘ปารีณา’ เหตุขาดเอกสารเล็กน้อย
- รักและห่วงใย! ‘ปารีณา’ บอก ‘บิ๊กตู่’ พ่นแอลกอฮอล์ใส่นักข่าว แค่หยอกเล่น
- ระทึก! สภาจ่อตั้งกรรมการสอบ “เอ๋ ปารีณา” ชุดใหญ่ หลังถูกร้องเรียน 17 เรื่อง
ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะต้องหยุดปฎิบัติหน้าส.ส. หากศาลรับฟ้อง น.ส.ปารีณา กล่าวว่า หากศาลรับฟ้องก็ไม่ใช่ว่าจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ยกเว้นศาลมีความเห็นต่างเป็นอย่างอื่น ดังนั้น จึงอยู่ที่ความเห็นของศาล
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ทุกอย่างประเดประดังเข้ามาในช่วงที่ตนเองมีบทบาททางการเมือง น.ส.ปารีณา กล่าวว่า เมืองไทยเป็นระบบกล่าวหา แต่ก็มีความยุติธรรมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเสมอ ฉะนั้นเมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เราก็จะมีโอกาสในการนำพยาน เอกสารและหลักฐานไปต่อสู้ ดังนั้น ขอวอนสังคมอย่างเพิ่งด่วนตัดสินตนในตอนนี้ เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นที่ดินที่เกิดขึ้นกับรัฐและประชาชน ปัญหาแผนที่ที่บางครั้งประชาชนไม่รู้ว่าที่ทำกินและอาศัยอยู่ เป็นที่ดินประเภทใด ขนาดรัฐยังมีข้อโต้แย้งกันว่าเป็นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ หรือที่ราชพัสดุ ถือปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชนทั่วประเทศ
“ดังนั้น คดีนี้จะเป็นโมเดลของประชาชนด้วย ว่าถ้าดิฉันถูกดำเนินคดี และเป็นคนแรกในรัฐสภาชุดนี้ที่ถูกดำเนินคดี ทั้งจริยธรรมคนแรก และบุกรุกป่าคนแรก ทั้งที่ในสภาและนอกสภาที่มีผู้ถือครองเอกสารเยอะ ซึ่งทุกคนคงจะเฝ้ารอดูคดีของดิฉันอยู่”น.ส.ปารีณากล่าว
ต่อข้อถามว่าถึงขณะนี้ยังมั่นใจในสิ่งที่ได้ดำเนินการ เข้าไปทำกินจริงๆ ใช่หรือไม่ น.ส.ปารีณา กล่าวว่า เดิมตนไม่ใช่นักกฎหมาย แต่มีความรู้ด้านกฎหมาย แต่ไม่ใช่นักกฎหมายที่จะไปเข้าใจกฎหมายที่ดินสปก., กฎหมายที่ดินป่าไม้ หรืออะไรต่างๆ และวันนี้เมื่อเป็นผู้ถูกกล่าวหาก็ได้เรียนรู้ขึ้นมามากขึ้น และเริ่มเข้าใจ ดังนั้น หากคดีนี้สิ้นสุดตนจะเปิดศูนย์ให้ความช่วยเหลือกับประชาชนที่มีปัญหาเรื่องที่ดินทำกินเช่นเดียวกับตน
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหนังสือถึงประธานสภาเพื่อขอตัวไปดำเนินคดีอาญานั้น น.ส.ปารีณา กล่าวว่า เขาคงกำลังดำเนินการอยู่ แต่ตนยังไม่ได้รับหมายเรียกอะไร และเมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็มีขั้นตอนอยู่แล้ว
