FootNote : การหวนกลับ “แฟลชม็อบ” อีกครั้ง จากสถานการณ์ #ม็อบ20มีนาคม
แล้วบรรยากาศแห่งอารมณ์ในแบบ “แฟลชม็อบ” ก็หวนกลับมาอีกหนเมื่อ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม”ร่วมมือกับ “ราษฎร” หลายกลุ่มฟื้นคืนใน #ม็อบ24มีนาคม
ต้องยอมรับว่าเป็นการฟื้นคืนอย่างมีการยกระดับขึ้นไปอีกขั้นตอนหนึ่งในทาง “ยุทธวิธี”
นี่มิได้เป็นการนำเอา “บทเรียน” จาก “เยาวชนปลดแอก” เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มาเท่านั้น หากแต่ยังเอาจากที่ REDEM ได้มาใน #ม็อบ20มีนาคม อีกด้วย
คำประกาศจาก “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” คือการฟื้นคืนม็อบที่มี “แกนนำ” ม็อบที่มี “เวที” ม็อบที่มี “การปราศรัย” และม็อบที่มี “การ์ด” เพื่อปกป้องและคุ้มครองผู้ชุมนุม
กระนั้น “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” ก็มิได้เดินหน้าอย่างเทิ่งๆ ตรงกันข้าม เรียกร้องความรับผิดชอบจาก “ตำรวจ”ขณะ ที่ยึดกุม “ความลับ”ของตนอย่างเข้มงวด จริงจัง
ภาพที่ปรากฏในคืนวันที่ 24 มีนาคม ณ แยกราชประสงค์ หากสรุปตามสำนวนของ “เพนกวิน”ก็ต้องยอมรับว่า “เบิ้ม เบิ้ม”
หากเป้าหมายของ “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม” คือการตระเตรียมในทางความคิดก่อนที่ 13 ผู้ต้องหาจะเข้าเผชิญกับคำสั่งฟ้องของสำนักอัยการสูงสุดจากกรณีหน้าสถานทูตเยอรมนี
ก็ต้องยอมรับว่าการปรากฏตัวของ มายด์ ภัสราวลี และครูใหญ่ อรรถพล ประสบความสำเร็จ
ขณะเดียวกัน หากมองว่าอีกเป้าหมายหนึ่งของการชุมนุมคือการนับ 1 ไปถึงล้าน เพื่อที่จะสะท้อนให้ “เพื่อน”ที่อยู่ในกรงขังรับรู้ว่า กระแสความเรียกร้อง “ปล่อยเพื่อนเรา”มิได้ตกต่ำเสื่อมทรุด
ไม่เพียงแต่มวลชนที่เข้าร่วมและชู 3 นิ้วพร้อมกับเปล่งคำขวัญบนท้องถนนแยกราชประสงค์เท่านั้นที่สามารถรับรู้ได้
หากแม้กระทั่งผู้ที่ติดตามจากสื่อออนไลน์ก็ประทับจิตฝังจำได้อย่างนาทีต่อนาที
ที่บางคนสรุปว่าทั้งหมดนั้นคือ “ภาพแห่งความหวัง”ถูกต้องยิ่ง
เพราะสถานการณ์ของ #ม็อบ24มีนาคม ได้ทำให้ภาพความคึกคักเกือบตลอดปี 2563 ได้หวนกลับมาอีกครั้งอย่างเปี่ยมด้วยชีวิตและวิญญาณ
ไม่มีใครคาดได้ว่าแนวโน้มของการชุมนุมในกาลข้างหน้า จะดำเนินไปอย่างไรในทางการเมือง แต่ที่เห็นและเป็นอยู่ของ #ม็อบ24มีนาคม มีความเด่นชัด
นั่นก็คือ สัญญาณแห่งการหวนกลับของ “แฟลชม็อบ”อีกครั้ง