อ.นพพร เล่านาที ส.ส.แปดริ้ว พปชร. รัวหมัดถีบยอดอก บอก “กูอยากเจอมึงมานานแล้ว” เผยร้านอาหารที่เกิดเหตุ ถูกเก็บกล้องวงจรปิดไปแล้ว
จากกรณี ผศ.นพพร ขุนค้า อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ถูกนายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทำร้ายร่างกาย หลังไม่พอใจที่ ผศ.นพพร ไปช่วยผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ของคณะก้าวหน้าหาเสียง ซึ่งเป็นคู่แข่งบิดาตัวเองคือ นายกิตติ เป้าเปื่ยมทรัพย์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ที่ผ่านมา
ผศ.นพพร เล่าว่า คืนวันที่ 26 มี.ค. หลังตนสอนหนังสือเสร็จ จึงได้ไปดื่มกับเพื่อนอาจารย์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหน้าสถานีรถไฟฉะเชิงเทรา ต่อมาเวลา 23.00 น. ตนเห็น นายชัยวัฒน์ เดินเข้ามานั่งดื่มกับลูกน้องที่ร้าน ตอนแรกตนไม่ได้สนใจอะไร จนเกือบเที่ยงคืน ตนกำลังจะกลับบ้าน ขณะเดินไปเข้าห้องน้ำได้พบ นายชัยวัฒน์ ยืนสูบบุหรี่อยู่หน้าห้องน้ำ ตนจึงไหว้ทักทายตามปกติ
นายชัยวัฒน์ ได้ถามตนชึ้นมาว่า “มึงช่วยนายกสิงห์ (ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา คณะก้าวหน้า) เหรอ ?” ตนตอบไปว่าไม่ได้ช่วย เพราะตนเป็นข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐ เพียงแค่ช่วยเสนอไอเดียเรื่องนโยบายหาเสียงให้
จากนั้น นายชัยวัฒน์ พูดขึ้นมาว่า “กูอยากเจอมึงมานานแล้ว มานี่หน่อย” ก่อนรัวหมัดชกตนไป 4-5 หมัด เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงรีบปลีกออกมา ระหว่างที่เดินไปเรียกเพื่อนให้กลับบ้าน นายชัยวัฒน์ ก็เดินตามมาหาแล้วเรียกให้ตนไปนั่งที่โต๊ะ ซึ่งลูกน้อง นายชัยวัฒน์ เดินมาเกลี้ยกล่อมจนตนต้องยอมไปนั่ง
ผศ.นพพร กล่าวต่อว่า นายชัยวัฒน์ พูดกับตนอีกว่า “มึงไปช่วยมันทำไม มึงเป็นอะไรกับบ้านกู” ก่อนจะรัวหมัดใส่ตนอีก 4-5 หมัด แล้วถีบหน้าอก 2 ครั้ง จนลูกน้องพยายามห้าม ทำให้ตนชิ่งออกมาได้จึงรีบขึ้นรถ ก่อนขับไปแจ้งความที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา และไปตรวจร่างกายต่อที่โรงพยาบาล
หลังเหตุการณ์เกิดขึ้น ตนทราบมาว่ามีการใช้อิทธิพลเรียกเก็บกล้องวงจรปิดทางร้านไปแล้ว แต่ตนก็หวังว่าทางเจ้าหน้าที่จะสามารถติดตามทวงถามหลักฐานจากกล้องวงจรปิดกลับมา เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ได้
“ผมอยากขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ เรื่องนี้สะท้อนสังคมอิทธิพลในท้องถิ่น คุณเป็น ส.ส.แต่กลับทำตัวแบบนี้ ใช้อิทธิพลคุกคามคนอื่นได้ ถ้าไม่มีการดำเนินการหรือปล่อยผ่านเรื่องไปเราจะอยู่กันอย่างไร ถ้าอิทธิพลสามารถเอาชนะความยุติธรรมได้ สังคมไทยเราจะอยู่กับอย่างไร”
