พี่โทนี่ “ทักษิณ ชินวัตร” มาอีกครั้ง! หนุน “โสเภณีถูกกฎหมาย” บอกประเทศไทย “อย่าดัดจริต” แนะวิธีหารายได้จากอาชีพเหล่านี้ ยกตัวอย่าง “หวยบนดิน”
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 มี.ค. ที่ห้องประชุมเทพลีลา โรงแรมเอสซี ปาร์ค โครงการ The change maker จัด Boot camp สัปดาห์ที่ 3 โดยมีการบรรยายพิเศษโดย Tony Woodsome หรือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บรรยายในหัวข้อ “Reimagining the Future of Thailand Economy: ชวนคิดใหม่ วางอนาคตเศรษฐกิจไทยในเวทีโลก”
ช่วงหนึ่งของวงเสวนา นายทักษิณ กล่าวถึง รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ชี้ มีไว้เพื่อสืบทอดอำนาจ แต่ในทางตรงกันข้าม ยังทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศนี้อย่างมหาศาล รัฐธรรมนูญคือปัญหาพื้นฐานที่ต้องแก้ไข คนในชาติต้องสำคัญกว่ารัฐบาล รัฐบาลนี้ห่วงอำนาจปกครอง แต่ทำลายประเทศ ข้าราชการวันนี้ทำหน้าที่เป็นนักปกครอง ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นนักบริการ เราต้องทำงานร่วมกัน ให้อำนาจกับประชาชน ให้อำนาจกับผู้บริโภค เพื่อให้ประชาชนจัดการเรื่องต่างๆ เองได้
นายทักษิณ ยังมีความกังวลต่อนโยบายการเงินการคลังของประเทศไทย ยกตัวอย่างในสมัยบริหารประเทศว่า GDP Per Capita (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว) ที่ประเทศไทยเคยนำประเทศจีน แต่ในปัจจุบัน พบว่าจีนแซงไทยไปแล้วเกือบสองเท่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ไทยกำลังมีปัญหาในการบริหารประเทศ รายได้ประชาชาติยังถูกถ่วงน้ำหนักด้วยความเหลื่อมล้ำ ทำให้คนในประเทศเคลื่อนตัวลำบาก เพราะรัฐบาลต้องแบกคนรายได้น้อยเยอะ
นายทักษิณยังแนะนำให้รัฐบาลต้องแก้ไขช่องว่างด้านรายได้โดยด่วน ส่วนนโยบายการเงินที่ประเทศต้องมาดูว่าธนาคารกลางทำอะไร ที่ทำให้คนจนเข้าหาแหล่งทุนไม่ได้
นายทักษิณชี้ว่า ประเทศไทยขาดนักใช้งบประมาณที่มีกลยุทธ์เพียงพอ สักแต่ว่าใช้วบประมาณให้ครบ บริหารแต่รายจ่าย ไม่บริหารรายรับ คิดเรื่องหาเงินเพิ่มไม่เป็น ตอนนี้ประเทศไทยถูกปกครองโดยทหาร งบทหารและความมั่นคงเพิ่มตลอด โดยเป็นไปเพื่ออาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งการรบปัจจุบันนี้มันเป็น technology warfare (สงครามเทคโนโลยี) แทน แต่ไทยยังไปติดอยู่กับสงครามแบบเก่า
นายทักษิณแนะนำว่า ต้องทำให้คนรายได้น้อยเข้าถึงแหล่งทุนให้ได้ ถึงเวลาแล้วที่ต้องปล่อย non-bank (ผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร) เข้ามาแข่งกับธนาคารทั่วไป การแข่งขันมันดีต่อเศรษฐกิจ ทุกวันนี้ ผู้บริโภคเสียเปรียบจากข้อจำกัดเหล่านี้ ซึ่งไม่เคยปกป้องผู้บริโภคได้จริง หรือไม่เคยปกป้องผลประโยชน์ของคนในประเทศจากต่างชาติได้เลย
นายทักษิณ ยังกล่าวกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หลุดผรุสวาท ในช่วงการตอบคำถามกับสื่อมวลชนว่า การด่าอีห่ากันหน้าทำเนียบ ไม่ได้ทำให้ประเทศเจริญ ต้องเข้าใจว่าอนาคตจะไปตรงไหน และใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร การด่าทอกัน เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าไม่ทำให้ประเทศเจริญ การเข้าใจปัญหาของคนไทย และพร้อมจะแก้ปัญหา ด้วยทักษะความเป็นผู้นำที่แข็งแรงคือสิ่งที่สำคัญมากกว่า
นายทักษิณ ยังกล่าวถึงเศรษฐกิจในวิกฤตโควิด โดยเฉพาะประเด็นการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ ระบุว่า วันนี้การท่อเที่ยวเราเฉา เพราะเรารับมือโรคระบาดได้ไม่ดี ต้องเริ่มคิดเรื่องเทคโนโลยีบ้าง รายได้หลักของประเทศไทยมีอยู่ไม่กี่อย่าง การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยการให้ความสำคัญกับธรรมชาติที่สวยงามเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงพอ สิ่งหนึ่งที่คนไม่ชอบเกี่ยวกับเราคือเรื่องมลพิษและรถติด ต้องคิดว่าเราจะแก้ไขอย่างไร รถไฟไฮเปอร์ลูป สามารถเป็นไปได้ไหม เพราะคนไทยเสียเวลากับการเดินทาง เป็นการใช้เวลาที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ ต้องคิดถึงการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ และใช้เทคโนโลยีควบคู่ไปด้วย
นายทักษิณ ยังกล่าวถึงเรื่องแพลตฟอร์มโดยคนไทย ระบุว่า เราไม่สนับสนุนคนไทย ให้ทำแพลตฟอร์ม เพื่อตอบโจทย์คนไทย ช่วงนี้มีแอปพลิเคชันอย่างคลับเฮาส์ แอปพลิเคชันต่างๆ ที่เป็นสตาร์ทอัพกำลังเติบโต วันนี้เราเด่นเรื่องทำโฮมสเตย์ ถ้าเราทำแพลตฟอร์มดีๆ ขายโฮมสเตย์ไทย สนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชน ก็ช่วยชุมชนได้ และอาจแข่งกับ Airbnb ได้เลย
นายทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ทั่วโลกสนใจข้อมูลทั้งสิ้น บริษัทอย่าง เฟซบุ๊ก และ กูเกิล เข้าถึงข้อมูลของคนไทยได้มากกว่ารัฐบาลไทยด้วยซ้ำ เพราะเขาวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ใช้งาน ด้วยเหตุนี้ ระบบข้อมูลขนาดใหญ่จึงเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องสนใจและใส่ใจ เพื่อนำข้อมูลเชิงวิเคราะห์กลับมารับใช้ประชาชน และมีประสิทธิภาพในการพัฒนาประเทศ แต่ไทยทำให้คนมีความสามารถพิการไปเลย ทุนก็เข้าไม่ถึง เต็มไปด้วยกฎระเบียบและข้อห้ามเต็มไปหมด ทั้งนี้ นายทักษิณ ยังย้ำถึง 3 องค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ ประกอบไปด้วย ทุน แก้กฎหมายที่ล้าหลัง และเรื่องเทคโนโลยี
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายที่มีการ “ถาม-ตอบ” เปิดให้ผู้ร่วมงานได้ถามนายทักษิณได้แบบสดๆ ซึ่งนายทักษิณ ได้ตอบทุกคำถามที่กลุ่มเยาวชนเข้าร่วมโครงการถาม เช่น กลุ่มที่ศึกษาถึงความเป็นไปได้ถึงการค้าบริหารถูกกฎหมาย ซึ่งอาชีพดังกล่าว เป็นอาชีพที่มีอยู่จริงในประเทศไทย และเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้ประเทศอย่างมหาศาล ซึ่งถูกมองข้าม และถูกทำให้เป็นอาชีพผิดกฎหมาย
ผู้ถามเน้นถึงประเด็นความเป็นไปได้ ที่จะทำให้อาชีพนี้ถูกกฎหมาย และจะใช้วิธีการใด ที่ทำให้กระทรวงแรงงานยอมรับ และขึ้นทะเบียนกับประกันสังคม ตาม ม.39 ของ พรบ.ควบคุมแรงงาน ให้ได้เหมือนกับอาชีพอิสระทั่วไป
นายทักษิณ ตอบคำถามดังกล่าวว่า เราเป็นประเทศดัดจริต เรามีกฎหมายปรามการค้าประเวณี ปราบก็ไม่ปราบ สรุปแล้วก็ครึ่งๆกลางๆ ประเภทแบบว่าดัดจริต กลัวเค้าจะรู้ว่ามีการค้าประเวณี และโสเภณี วันนี้เราต้องอยู่บนโลกความเป็นจริง และจริงๆแล้วถ้าทุกอย่างขึ้นมาอยู่บนโต๊ะ ควบคุมและตรวจสอบได้ เช่นมีใบตรวจโรค มันจะควบคุมได้หมด และมีระบบเสียภาษี พร้อมการประกันสังคมได้หมดทุกอย่าง แต่ว่าเราไม่ชอบ
ทั้งนี้ นายทักษิณ ยังยกถึงอย่างถึงกรณีหวยบนดิน ที่เป็นนโยบายเด่นในยุคตน ที่สามารถนำรายได้จากการขายหวง ส่งเด็กไทยไปเรียนต่างประเทศได้ปีละ 900 คน และคนจนเรียนได้ฟรีไม่รู้เท่าไหร่ เราบอกว่าไม่ได้ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเรามีหวยใต้ดิน ก็ให้มีเจ้าพ่อใต้ดินไว้อย่างเดิม รวมถึงเรื่องบ่อนการพนัน กาสิโนมีไม่ได้ แต่ว่ามีบ่อนอยู่เต็มเมือง
“คือผมไม่รู้ว่า มันเป็นเพราะอะไร ตอนเป็นนายกรัฐมนตรี พยายามจะทำ ก็ทำไม่ได้ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเราถึงไม่ยอมรับความจริง ทำไม่เราไม่นำ Gray Economy ขึ้นมาเป็นเป็นธุรกิจที่ถูกต้องไม่ดีกว่าเหรอ เราจะได้นับ GDP ได้ถูกต้อง” นายทักษิร กล่าว
