‘ธนาธร’ ประณามรัฐบาลสลายชุมนุมม็อบหมู่บ้านทะลุฟ้า จี้ ‘ประยุทธ์’ หยุดมองประชาชนเป็นศัตรู ยุติการดำเนินคดี ลั่นผู้นำต้องมีวุฒิภาวะ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2564 จากกรณีเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้าของกลุ่มภาคีเซฟบางกลอยและกลุ่มเดินทะลุฟ้า ที่ถนนพระราม 5 เลียบคลองผดุงกรุงเกษม ใกล้สะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล

ล่าสุด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า “หยุดดำเนินคดีกับชาวหมู่บ้านทะลุฟ้าทุกคน รัฐต้องรับฟัง ไม่ใช่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับประชาชน การสลายการชุมนุมและจับกุมดำเนินคดีผู้ชุมนุมในหมู่บ้านทะลุฟ้า ข้างทำเนียบรัฐบาล เป็นการกระทำที่รัฐล้ำเส้นประชาชนอย่างชัดเจนที่สุด”

นายธนาธร ระบุอีกว่า ตนติดตามกิจกรรมเดินทะลุฟ้า ระยะทาง 247.5 กิโลเมตร จากโคราชถึงกรุงเทพฯ ด้วยความชื่นชมมาตั้งแต่ต้น ว่านี่คือหนึ่งในรูปแบบการแสดงออกที่สันติ แต่หนักแน่นทรงพลังของประชาชน ที่ต้องการส่งเสียง ส่งข้อเรียกร้องให้ได้ยินไปถึงรัฐบาล และตนยังได้เคยแวะไปให้กำลังใจไผ่ ดาวดิน และเพื่อนร่วมทางของเขา ตอนที่ขบวนเดินทะลุฟ้าเดินทางมาถึงที่สระบุรี ตนยืนยันกับไผ่ว่าเห็นด้วยและพร้อมสนับสนุนข้อเรียกร้องของชาวเดินทะลุฟ้าทั้ง 3 ข้อ

คือ 1.ปล่อยตัวเพื่อนเรา ที่เป็นแกนนำและแนวร่วม ผู้ถูกคุมขังโดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัว 2.เขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ยืนยันว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน และ3.ยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112

ทั้งนี้ หมู่บ้านทะลุฟ้า ซึ่งเป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากการเดินทะลุฟ้า ปักหลักค้างแรมที่ข้างทำเนียบรัฐบาลมาตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ตลอดเวลาที่ผู้ชุมนุมอยู่ที่นั่น มีแต่กิจกรรมที่สงบ สันติ อาทิ การเสวนาวิชาการ การแสดงผลงานศิลปะ แฟชั่นโชว์ และกิจกรรมอื่นๆ เพื่อสนับสนุนสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน ที่เชื่อในหลักการคนเท่ากัน ซึ่งตามหลัก เจ้าหน้าที่ไม่มีความชอบธรรมใดๆ ที่จะสลายการชุมนุมอย่างแน่นอนไม่ว่าในทางใด

นายธนาธร ชี้ต่อว่า เหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้าเมื่อเช้าตรู่ที่ผ่านมา โดยใช้โอกาสในวันที่พี่น้องประชาชนจำนวนมากกลับภูมิลำเนาไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้บริหารและสมาชิกสภาเทศบาลในท้องถิ่นของตัวเอง โดยที่ปฏิบัติการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่รัฐครั้งนี้ มีการจับกุมผู้ชุมนุมไปไว้ที่กองบังคับการตชด. ภาค 1 ถึง 70 คน ในจำนวนนี้รวมถึงมีการจับกุมเยาวชนด้วย

โดยอ้างพ.ร.บ. โรคติดต่อ และพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ใช้ในการควบคุมโควิด จึงเป็นการกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้ เป็นการละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ และยังตอกย้ำให้สังคมเห็นว่า รัฐบาลนี้ไม่พร้อมที่จะเจรจา รับฟังข้อเรียกร้องแห่งยุคสมัย ไม่เหลือพื้นที่ให้กับการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพของประชาชน แม้ว่าการชุมนุมจะสงบสันติเพียงใดก็ตาม

“ผมขอประณามรัฐบาลและผู้สั่งการสลายการชุมนุม รวมทั้งเรียกร้องให้ยุติการควบคุมตัวซึ่งเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และยุติการดำเนินคดีต่อพวกเขาทั้งหมด โดยผู้ชุมนุมต้องสามารถกลับมาทำกิจกรรมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลได้ตามสิทธิเสรีภาพที่มีในฐานะประชาชนคนไทย”

“นอกจากนี้ สิ่งที่ผมต้องเน้นย้ำด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องหยุดมองประชาชนเป็นศัตรู หยุดใช้อำนาจบาตรใหญ่โดยอ้างเรื่องการรักษาความสงบและควบคุมโรคระบาด ประเทศไทยวันนี้ ต้องการผู้นำที่มีวุฒิภาวะ มีวิสัยทัศน์พอที่จะมองเห็นว่า หากผู้มีอำนาจไม่ยอมรับฟังเสียงเรียกร้องแห่งยุคสมัย ไม่ยอมเจรจาประนีประนอมกับประชาชน ประเทศชาติก็จะไร้ซึ่งอนาคต” นายธนาธร ระบุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน