คณะรัฐมนตรี (ครม.) ถกในที่ประชุม เล็งเรียกเก็บภาษีเพิ่ม หลังไม่เป็นตามเป้า นายกรัฐมนตรี ย้ำ ขอความร่วมมือ เรื่องสำคัญอย่าให้พลาด โดยเฉพาะแต่งตั้งโยกย้าย

เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ใช้เวลาพูดคุยถึงการจัดเก็บรายได้ของประเทศค่อนข้างนาน โดยกระทรวงการคลัง รายงานภาพรวมเศรษฐกิจ ที่เก็บไม่ได้ตามเป้าเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ในขณะที่งบประมาณที่มีอยู่มีความจำเป็นต้องใช้แก้ปัญหาสถานการโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันนี้จัดเก็บอยู่ร้อยละ 7

โดยนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ความเห็นว่า การจะขึ้นภาษี ขอให้พิจารณาอย่างตรงไปตรงมา อย่านำไปเป็นประเด็นการเมืองเพราะใครมาก็กลัวประชาชนคัดค้าน และในต่างประเทศเขาเลือกจะขึ้นภาษีในช่วงโควิด เพื่อนำรายได้ไปเพิ่มสวัสดิการให้ประชาชน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวสนับสนุนว่าเห็นด้วยกับแนวคิดของนายจุติ

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้ความเห็นว่า ประเทศไทยไม่มีการขึ้นภาษีมานานแล้ว ดังนั้นควรไปศึกษาให้รอบคอบก่อน ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม สอบถามว่า ต่างประเทศที่พูดถึงเป็นประเทศเพื่อนบ้านเราหรือประเทศไหน หลังการแสดงความเห็น ที่ประชุมไม่มีข้อสรุปโดยให้กระทรวงการคลัง ไปศึกษารายละเอียดในเรื่องนี้และให้เสนอกลับเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณาอีกครั้ง

นอกจากนั้น เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าจะมีการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ วันที่ 7-8 เม.ย.เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยเรื่องการออกเสียงประชามติ โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับรัฐมนตรี ว่า ขอความร่วมมือทุกพรรคให้เข้าร่วมประชุม พร้อมย้ำว่าเรื่องกฎหมายสำคัญอย่าให้พลาด ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าสนับสนุนการแก้ไขเพราะเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ช่วยกันทำให้ได้ ทั้งนี้ก่อนจบการประชุมนายกฯ ยังเน้นย้ำเรื่องการเสนอชื่อแต่งตั้งโยกย้าย ให้เช็คประวัติให้รอบคอบ อย่าให้เสียหาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน