เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาฯพรรคเพื่อไทย และผอ.ศูนย์นโยบายเพื่อไทย ชำแหละ “สินเชื่อฟื้นฟู-พักทรัพย์พักหนี้” เย้ยไม่มีอะไรใหม่ แถมเกาไม่ถูกที่คัน

เกาะติดข่าว กดติดตามข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะผอ.ศูนย์นโยบาย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึง 2 มาตรการทางการเงินใหม่ของรัฐบาล ทั้งมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูและพักทรัพย์พักหนี้ วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท ว่า

มาตรการสินเชื่อพื้นฟู วงเงิน 2.5 แสนล้านบาทมาแทนที่เพื่อแก้ไข Soft Loan ที่ล้มเหลว โดยผ่อนปรนเงื่อนไข 5 ด้าน เช่น เพิ่มลูกหนี้ใหม่ ขยายวงเงิน ยืดเวลา ปรับอัตราดอกเบี้ย และปรับกลไกค้ำประกันสินเชื่อ มองย้อนกลับไป ความล้มเหลวของ Soft Loan เกิดจาก 2 ส่วน คือ 1.คนเดือดร้อนเข้าไม่ถึงสินเชื่อเพราะติดที่เงื่อนไข และ 2.ถึงผ่านเงื่อนไขแต่ธนาคารพาณิชย์ปฏิเสธ เพราะธนาคารไม่คุ้มเสี่ยง

มาตรการสินเชื่อฟื้นฟูนี้แก้ในส่วนแรก คือทำให้คนผ่านหลักเกณฑ์มากขึ้น สามารถเข้าคิวขอรับสินเชื่อได้มากขึ้น แต่ปัญหาสำคัญสุดของ Soft Loan ที่ผ่านมาคือ ตัวธนาคารพาณิชย์ที่ไม่คุ้มเสี่ยงจึงไม่ปล่อยกู้ ซึ่งเป็นคอขวดสำคัญของความล้มเหลว ซึ่งไม่ได้ถูกแก้ไขจากมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูใหม่นี้ ทำให้ลูกค้าที่ผ่านเงื่อนไขก็ขอสินเชื่อไม่ผ่านต่อไป สภาพคล่องหรือสินเชื่อสำคัญที่สุดในภาวะวิกฤต แต่ประเทศไทยกลับขาดกลไกการส่งผ่านสินเชื่อมาเกือบ 1 ปีเต็มๆ มาวันนี้จะแก้ไขก็ไม่ถูกจุด ถึงมีบทเรียนจาก Soft Loan แต่กลับเป็นบทเรียนที่รัฐบาลไม่จำ ตนมองเห็นอนาคตว่านี่จะคือ Soft Loan ที่ล้มเหลวภาค 2

ส่วนมาตรการพักทรัพย์พักหนี้ หรือ Asset Warehousing วงเงิน 1 แสนล้านบาทนั้น คือการตีโอนทรัพย์ค้ำประกันให้เจ้าหนี้หรือธนาคารเพื่อตัดหนี้คงค้าง ตรงนี้ไม่มีอะไรใหม่ เป็นกระบวนการปกติของธนาคารอยู่แล้ว ที่เพิ่มมาคือเงื่อนไขซื้อคืนโดยลูกหนี้มีสิทธิ์คนแรก สามารถเช่ากลับมาดำเนินกิจการได้ ซึ่งเงื่อนไขที่เพิ่มมาไม่ได้มีนัยสำคัญอะไร ตราบใดที่คนตัดสินใจจะรับตีโอนทรัพย์ คือธนาคารพาณิชย์เจ้าหนี้ ที่สุดแล้วก็จะเลือกรับโอนเฉพาะสินทรัพย์คุณภาพดี ซึ่งลูกหนี้กลุ่มนี้ก็ไม่ได้ต้องการเข้าโครงการ เพราะมีสายป่านยาวกว่า ทุนใหญ่กว่า มีช่องทางระดมทุนแบบอื่นนอกจากสินเชื่ออยู่แล้ว

ที่เข้าโครงการส่วนใหญ่จึงเหลือแต่สินทรัพย์คุณภาพแย่ ที่มีปัญหา ทำเลไม่ดี เสื่อมโทรม ขายไม่ออก ซึ่งธนาคารก็ไม่อยากได้ อีกทั้งกลุ่มนี้ลูกหนี้จะไม่มีกำลังซื้อสินทรัพย์คืนด้วย ทรัพย์สินแย่เหล่านี้จึงตกเป็นภาระของธนาคาร ปลายทางของมาตรการนี้คือ สินทรัพย์ดีคนไม่ตีโอน สินทรัพย์แย่เข้าคิวรอ แต่ธนาคารไม่ต้องการ จึงจะเป็นอีกมาตรการที่ล้มเหลว และยอดไม่เดิน

นอกจากนั้นมาตรการนี้พุ่งเป้าไปที่เจ้าของโรงแรมที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน แต่ภาคบริการนั้นใหญ่กว่าคำว่าธุรกิจโรงแรมมาก ธุรกิจ เช่น มัคคุเทศก์ รถรับจ้าง แม่ค้าขายของนักท่องเที่ยว สายการบิน ธุรกิจเดินเรือ นวดสปา หาบเร่แผงลอย ต่างๆ เหล่านี้เข้าโครงการนี้ไม่ได้ เพราะไม่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน

“ผมมองว่าสินเชื่อฟื้นฟู ปัญหาคอขวดที่กลไกธนาคารพาณิชย์ไม่ปล่อยกู้เพราะไม่คุ้มเสี่ยง ยังไม่ได้รับการแก้ไข เหมือนเอา Soft Loan มาเกาแต่ไม่ถูกที่คัน ส่วนพักทรัพย์พักหนี้ไม่มีอะไรใหม่ เกิดปัญหาสินทรัพย์แย่รอคิว แต่ธนาคารไม่อยากได้ ไม่รับตีโอน และธุรกิจที่ไม่มีอสังหาริมทรัพย์ค้ำประกันถูกลอยแพ ไม่ได้รับการช่วยเหลือ” นายเผ่าภูมิ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน