โฆษกเพื่อไทย ซัด แถลง “ประยุทธ์” ไร้แก่นสาร จี้รัฐบาล เพิ่มทางเลือกวัคซีนให้ความมั่นใจกับ ปชช. ถาม วัคซีนที่จะเข้ามาคือของเหลือจากประเทศอื่นหรือไม่
เมื่อวันที่ 17 เม.ย. น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแถลงข่าวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่า ยังคงเลื่อนลอยไร้แก่นสารสาระและความชัดเจน ทั้งในแง่เป้าหมายการเพิ่มทางเลือกวัคซีนยี่ห้ออื่นที่กำลังเจรจาจัดซื้อจากรัสเซียและอเมริกาว่ามียี่ห้อใดบ้าง จำนวนเท่าไหร่
และจะทราบผลการเจรจาวันไหน เพื่อให้ความมั่นใจกับประชาชนว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จริงจังและลงมือแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดจากการจัดหาวัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นวัคซีนหลักถึง 61 ล้านโดส ทั้งที่หลายประเทศในยุโรป เช่น เดนมาร์กระงับการฉีดแล้ว เพราะมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันและยังเตรียมส่งต่อให้ประเทศที่มีรายได้ต่ำ แต่กลับกลายเป็นว่าในห้วงเวลาที่ประชาชนต้องการความหวัง เมื่อมองไปที่พล.อ.ประยุทธ์ กลับไม่มีแม้แต่ภาวะผู้นำที่เป็นหลักใหญ่ขั้นพื้นฐานที่นายกรัฐมนตรีควรมี สะท้อนว่าอนาคตประชาชนนับวันยิ่งมืดมน
น.ส.อรุณี กล่าวต่อว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องมองไปข้างหน้า นอกจากการเพิ่มบุคลาการทางการแพทย์ในการฉีดวัคซีนแล้ว รัฐบาลควรศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาในต่างประเทศว่าเกิดผลกระทบกับคนกลุ่มใด มีโรคประจำตัวแบบไหน เพื่อจำกัดปัญหาและควบคุมความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด และส่งเสริมให้นักวิจัยไทยเร่งทำชุดตรวจ anti-PF4 หรือชุดตรวจหาสาเหตุที่ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในวัคซีนแอสตราเซเนกา ดังนั้น ในขณะนี้ปัญหาจึงไม่ใช่การฉีดวัคซีนเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความกลัวที่จะฉีดอีกด้วย
“ความผิดพลาดของรัฐบาลในตอนนี้ คือเชื่อว่าตัวเองทำเต็มที่และทำดีที่สุดแล้ว ทั้งที่ได้วัคซีนน้อยและช้า แถมยังได้ของไม่ดีอีกด้วย ประเทศอื่นเตรียมทิ้งแอสตราเซเนกา แต่เรายังมั่นใจในประสิทธิภาพเต็มร้อย อยากถามว่าวัคซีนที่กำลังจะเข้ามาคือของเหลือจากประเทศอื่นหรือไม่ หรือท่านยึดถือนโยบายขยะของเขาคือสมบัติของเรา” น.ส.อรุณี กล่าว
