“บิ๊กตู่” มั่นใจ เศรษฐกิจไทยฟื้นต่อเนื่อง ยัน คุมโควิด-19 ระลอกนี้ได้ แจงเหตุไม่ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว หวั่นกระทบประชาชนมากเกินไป
วันที่18 เม.ย.64 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มั่นใจมาตรการที่คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค.ปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ทั่วประเทศ และปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดจากผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ ซึ่งเดินทางกลับหลังเทศกาลสงกรานต์ เพิ่มประสิทธิภาพ และลดการแพร่เชื้อที่สัมพันธ์กับสถานบันเทิง การรวมกลุ่ม การสังสรรค์ และปัจจัยที่ทำให้มีการระบาดในวงกว้าง
ซึ่งมาตรการต่างๆได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ จะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงโดยเร็ว ไม่แพร่กระจายไปมากกว่าที่เป็นอยู่ รัฐบาลหลีกเลี่ยงที่จะออกมาตรการล็อกดาวน์หรือเคอร์ฟิว เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนมากเกินไป จึงขอความร่วมมือจากประชาชนปฎิบัติตามมาตรการที่ศบค. กำหนดอย่างเคร่งครัด
นายอนุชา กล่าวว่า นายกฯมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทย สามารถขยายตัวได้ในปี 2564 ซึ่งในปีนี้ประชาชนจะได้รับการฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่า35 ล้านคน และคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนโควิด-19 จะจัดหาเพิ่มเติมอย่างน้อย 10 ล้านโดส สำหรับใช้ในสถานพยาบาลของรัฐ และวัคซีนทางเลือกเพื่อนำมาให้บริการในสถานพยาบาลเอกชน
ดังนั้นสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นตามลำดับ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการระบาดในระลอกนี้ รัฐบาลสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีเงินเกือบ 3.8 แสนล้านบาท สำหรับนำมาใช้เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ แยกเป็นเงินจำนวน 2.4 แสนล้านบาทจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีเงินจากงบกลางปี 2564 ในส่วนของเงินสำรองจ่ายเพื่อการฉุกเฉินและจำเป็นอีก 98,500 ล้านบาท และงบสำหรับบรรเทาโควิด-19 อีก 36,800 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน
