ไพบูลย์ ยัน คดี “ธรรมนัส” ไม่เข้าข่ายสอบจริยธรรมพรรค ชี้ ต้องเกิดเหตุขณะเป็นสมาชิกพลังประชารัฐ เมิน “เสรีพิศุทธิ์” จ่อร้อง ป.ป.ช. สอบจริยธรรม

เมื่อวันที่ 6 พ.ค.64 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ฝ่ายกฎหมาย ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพส.ส.และความเป็นรัฐมนตรีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค พปชร. ไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบ 160(6) มาตรา 98 (10) และมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (10) จากกรณีศาลออสเตรเลียมีคำพิพากษาจำคุกฐานนำเข้าและค้ายาเสพติด ว่า

คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันทุกองค์กร ดังนั้น ร.อ.ธรรมนัส จึงไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม สามารถตำรงตำแหน่ง ส.ส.และรัฐมนตรี ได้

“ประเด็นเรียกร้องให้พรรคสอบเรื่องจริยธรรม จะมีการพิจารณาเกิดขึ้นได้คือ ในขณะที่เป็นสมาชิกพรรค หากพบว่ามีการกระทำฝ่าฝืนจริยธรรมหรือข้อบังคับพรรคหรือไม่ ซึ่งพรรคพปชร.จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อปี 2561 หากคนที่เป็นสมาชิกอยู่ในขณะนั้นกระทำผิดข้อบังคับพรรค ก็ต้องตรวจสอบ แต่กรณีร.อ.ธรรมนัส เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายสิบปีก่อนจะเป็นสมาชิกพรรค จึงไม่อยู่ในกรอบจริยธรรมตามข้อบังคับของพรรค”

ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสังเกตกรณีร.อ.ธรรมนัส กับนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ที่ปรึกษารมว.ยุติธรรม ที่ส่งคนใกล้ชิดไปสอบภาษาอังกฤษแทน และถูกเสนอให้ถอดออกจากทุกตำแหน่ง นายไพบูลย์ กล่าวย้ำว่า การพิจารณาว่าขัดจริยธรรมหรือไม่ จะดูจากการกระทำในขณะที่เป็นสมาชิกพรรค

เมื่อถามกรณีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุเตรียมยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบจริยธรรม ร.อ.ธรรมนัส นายไพบูลย์กล่าวว่า หากจะร้องก็ร้องไป แต่ตามหลักกฎหมายต้องดูระหว่างที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีการกระทำละเมิดจริยธรรมในขณะดำรงตำแหน่งหรือไม่ ส่วนเหตุที่เกิดก่อนหน้านั้น เราเข้าไปดูไม่ได้ เพราะไม่เกี่ยวกับอำนาจที่จะไปตรวจสอบ ขอย้ำว่าเมื่อศาลมีคำวินิจฉัยออกมา ก็ถือเป็นที่สุดแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน