เลขาฯ สมช. เมิน “พี่โทนี่” แฉ วัคซีนไฟเซอร์ เข้าไทยแล้ว ลั่น ไม่เสียเวลาเรื่องไม่จริง ปัดกระแสข่าว “มาเฟียคลองเตย” กั๊กคิววัคซีน เล็ง หากเจอ ให้ฝ่ายความมั่นคง จัดคิวแทน
เมื่อเวลา 15.15 น.วันที่6 พ.ค.ที่ทำเนียบ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศปก.ศบค. และประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบูรณาการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีอดีตนายกรัฐมนตรี และฝ่ายการเมือง ให้ข้อมูลว่าวัคซีนของ บริษัทไฟเซอร์ ได้เข้ามาในประเทศไทย และต่อมาบริษัทไฟเซอร์ ประจำประเทศไทย และ สำนักงานคณะกรรมการองค์อาหารและยา (อย.) ว่า
ไม่เป็นความจริง เราจะไม่เสียเวลากับข่าวที่ไม่เป็นความจริง และต้องพยายามสร้างความรับรู้ข้อมูลที่แท้จริงให้แก่ประชาชน ที่ผ่านมาการแถลงข่าวของ ศบค.ทุกวัน ได้เชิญคุณหมอ ผู้ทรงคุณวุฒิ และมีความอาวุโส ในด้านเกี่ยวกับวัคซีน มาให้ข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เราทำอยู่โดยเน้นให้ข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่ากรณีที่มีหัวคะแนนในพื้นที่เขตคลองเตย จัดบัตรฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนบางกลุ่มศบค. จะมีแนวทางแก้ปัญหาอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ในชั้นต้นได้รับข้อมูล แต่ได้สอบถามหน่วยงานในพื้นที่ไม่เป็นเช่นนั้น ทั้งนี้ศปก.ศบค. ได้เน้นย้ำ กับหน่วยงานในพื้นที่ โดย เฉพาะผอ.เขตคลองเตย และ หน่วยงานด้านสาธารณสุข ขอเพ่งเล็งเรื่องนี้เป็นพิเศษ และ ไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น และในอนาคตหากยังมีเหตุการณ์เช่นนี้ อาจจะให้ฝ่ายความมั่นคงเข้าไปสนับสนุนต่อไป
เมื่อถามว่านอกจากกลุ่มเสี่ยงเช่นผู้สูงอายุ โรคประจำตัว ที่เป็นเป้าหมายแรกในการฉีดวัคซีน คนหนุ่มสาวมีความจำเป็นจะต้องฉีดวัคซีนหรือไม่เพราะมีความเสี่ยงติดเชื้อโควิดเช่นกัน เลขาฯสมช. กล่าวว่า นายกฯได้สั่งการเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ในการประชุมครม.ให้นโยบายแก่ กระทรวงสาธารณสุข จำเป็นจะต้องฉีดให้คนกลุ่มอื่น และ คนทำงาน ไม่ใช่ฉีดเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว หรือ อายุ 60 ปี ขึ้นไป เพราะวันนี้มีพื้นที่เสียงและคนกลุ่มอื่นอาจเข้าไปติดเชื้อ โดยในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขกำลังประชุมเรื่องนี้อยู่ คาดว่าจะมีการจัดสรรฉีดวัคซีนให้คนกลุ่มอื่นด้วย
เมื่อถามย้ำว่าตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้คนกรุงเทพฯอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เป็นนโยบายจากนายกฯ ตั้งเป้าจะฉีดให้คนไทยจำนวน 50 ล้านคนในสิ้นปีนี้ ที่เหลือเวลา อีก 8 เดือน และ ทางศบค. ก็วางแผนว่าใน4 เดือนแรกควรจะฉีดในเข็มแรกให้คนกรุงเทพฯ ทั้งคนกรุงเทพฯ และ ประชากรแฝง คาดว่า 6 ล้านคน หรือประมาณ วันละ 6 หมื่นคน โดยศบค. ให้กรอบดังกล่าวไปให้ กทม. และ กทม.ต้องไปการวางแผนว่า ในพื้นที่ 50 เขต ว่าจะมีกี่จุด เพื่อให้สามารถฉีดได้ตามเป้าหมาย
