หลาน’โทนี่’ จี้รัฐปรับแผนฉีดวัคซีนโควิด แนะใช้สิงคโปร์โมเดล ซัดเลิกฉีดไล่หลังระบาด เผยควรชี้ให้บุคลากรในระบบขนส่งสาธารณะ รองจากบุคลากรทางการแพทย์

เมื่อวันที่ 10 พ.ค. น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ อดีตประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ และหลานสาว นายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า

ได้ยินข่าวกระเป๋ารถเมล์สังกัด ขสมก. ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติม อยากตั้งข้อสังเกตว่าแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของรัฐบาลแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ตรงจุดหรือไม่ เพราะเหมือนจะไม่มีการจัดลำดับความสำคัญในการฉีดวัคซีน

ทุกวันนี้เห็นแต่แผนฉีดวัคซีนไล่หลังการระบาดอย่างเดียว แต่ไม่เห็นวางแผนฉีดแบบป้องกันเลย ยกตัวอย่างการการฉีดวัคซีนในประเทศสิงคโปร์ ที่จัดลำดับความสำคัญตามความจำเป็นของชีวิตประชาชนก่อน แบ่งเป็น 1.ฉีดบุคลากรทางการแพทย์ 2.บุคลากรในระบบขนส่งสาธารณะ เช่น เจ้าหน้าที่สนามบิน เจ้าหน้าที่ท่าเรือ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวกับระบบขนส่ง เป็นต้น 3.ผู้สูงอายุ เนื่องจากรัฐบาลสิงคโปร์เข้าใจดีว่า เศรษฐกิจของประเทศจะเดินหน้าได้ต่อเมื่อประชาชนออกไปใช้ชีวิต ยังต้องเดินทางออกไปทำมาหากิน ไม่สามารถอยู่บ้านได้ทุกคน จึงวางแผนฉีดแบบป้องกัน

“ในขณะที่บ้านเราหลังจากฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์แล้ว ลำดับต่อไปที่ควรฉีดคือเจ้าหน้าที่ให้บริการในระบบขนส่งสาธารณะ เช่น ขสมก. บีทีเอส สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ สนามบิน ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่เรื่อยๆ แล้วไล่ฉีดตามหลังคลัสเตอร์เหล่านั้นอย่างเดียว รัฐบาลควรวางแผนการฉีดวัคซีนทั้งแบบป้องกัน และแบบควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปพร้อมกันด้วย เพราะนอกจากรัฐบาลจะบริหารจัดการล้มเหลวเรื่องการจัดหาวัคซีน และไม่มีวัคซีนเพียงพอแล้ว ยังบริหารจัดการแบบไม่มีแผน หรือจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังแบบผิดๆ”

“ทุกวันนี้ที่ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน คือการบริหารงานแบบแก้ปัญหาตามพาดหัวข่าวรายวัน ดังนั้นกว่าจะถึงไตรมาส 4 ที่วัคซีนล็อตใหญ่มาถึง ชาวบ้านที่ต้องหาเช้ากินค่ำ หากไม่ติดโควิดก่อนคงอดตายก่อนแน่นอน” น.ส.ชยิกา กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน