“ประยุทธ์” รับสะเทือนใจ ภาพเจ้าหน้าที่ หลับฟุบคาโต๊ะ เชื่อโควิดลามคุกคลี่คลายเร็วๆนี้ ฝากทุกคนช่วยกันไปฉีดวัคซีน โยน สธ.แจงหาวัคซีนให้เด็กต่ำ 18

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 พ.ค.64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีเปิด โรงพยาบาลบุษราคัม อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข พร้อมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ต้อนรับ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หลายประเทศยังมีความรุนแรง มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่ไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ และต้องการรักษาพยาบาลจำนวนมาก ที่ผ่านมามีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามหลายแห่ง วันนี้กได้จัดตั้งโรงบาลบุษราคัมเพิ่มขึ้นอีก เกิดจากความร่วมมือจากทุกส่วนภายใต้การดูแลของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มีปัญหาอยู่บ้างตามสถานการณ์ เราต้องประเมินตามสถานการณ์ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน สถานการณ์จะเป็นตัวชี้วัดว่าจะต้องทำอะไรเพิ่มเติม เช่น การเพิ่มสถานที่คัดกรองการฉีดวัคซีน โดยต้องใช้บุคลากรปฏิบัติงานอีกหลายหมื่นคน จึงต้องมีการประสานงานที่ดี แต่เรายังรับได้อยู่เมื่อเทียบกับหลายประเทศ ดังนั้นขออย่าท้อแท้ อย่าสิ้นหวังและอย่ามัวขัดแย้งกัน ไม่เช่นนั้นจะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย แม้ว่าเราอาจจะทำได้ไม่ดีที่สุด แต่ไม่ได้เลวร้ายที่สุด และทำงานตามสิ่งที่เราต้องทำ ซึ่งได้มีการพิจารณาสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา

ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกคน และยังมีอีกหลายหมื่นคนทำงานในท้องถนน ในพื้นที่และในชุมชนต่างๆ ขอให้นึกถึง และให้กำลังใจคนเหล่านี้ด้วย ที่เสียสละเป็นด่านหน้า พร้อมจะติดเชื้อได้ตลอดเวลา และสิ่งที่ตนสะท้อนใจ และไม่สบายใจที่เห็นภาพเจ้าหน้าที่ด่านหน้า นั่งและนอนหลับใต้โต๊ะ กลับบ้านไม่ได้ ต้องเสียสละ ขอยกย่องคนเหล่านี้ด้วยใจจิง

ดังนั้นอะไรที่จะเป็นกำลังใจให้กับคนเหล่านี้ ก็ขอให้สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ด้วย ซึ่งนี่คือคนไทย นี่คือประเทศของเรา และระบบสาธารณสุขของเรา ขอชื่นชมและคนเหล่านี้สร้างผลงานมาหลายสมัยแล้ว โดยเฉพาะการรับมือโรคระบาด ทุกคนเสี่ยงอันตรายและเหน็ดเหนื่อย แต่ยังคงมุ่งมั่นทุ่มเท ขอยกย่องทุกคนอย่างใจจริง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันมีผู้นำหลายประเทศ ผู้แทนท่านทูตหลายประเทศมีการพูดถึงประเทศไทย ชื่นชมการจัดการของประเทศไทยในการแก้ปัญหาโควิด ซึ่งหลายประเทศยังควบคุมไม่ได้มากนัก และเราพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และแนวทางที่ไทยเคยปฏิบัติ มีอะไรช่วยเหลือแนะนำได้

เราเป็นประเทศหนึ่งในโลกใบนี้ และเป็นมนุษย์ที่อยู่ในโลกเดียวกัน เราต้องช่วยกัน ขอบคุณฝ่ายความมั่นคงดูแลชายแดน วันนี้ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างดี เชื่อว่าหากร่วมมือกันประเทศไทยของเราจะต้องเอาชนะโรคร้ายครั้งนี้ไปได้แน่นอน

จากนั้นนายกรัฐมนตรี รับเงินและสิ่งของสนับสนุนจากภาคเอกชน ก่อนเดินเยี่ยมชมศูนย์สั่งการ รวมถึงห้องพักผู้ป่วยในพื้นที่ดูแลผู้ติดเชื้อเฟส 1 โซนสวนหย่อม โซนผู้ติดเชื้อปกติ โซนผู้ติดเชื้อที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ จุดรับส่งผู้ติดเชื้อ และห้องน้ำ โดยนายกฯ ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่พร้อมสอบถามถึงการทำงาน

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 วันนี้ าเรวางใจยังไม่ได้ และอยากให้ใช้มาตรการทางสังคมช่วยดูแลด้วย ผ่านชุมชนและผู้นำชุมชนต่างๆ ตนเข้าใจว่าคนหาเช้ากินค่ำมีความจำเป็นและมีความเสี่ยงสูง ช่วงนี้อาจลำบากมาก รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ จึงต้องดูในด้านเศรษฐกิจว่าจะดูแลกันอย่างไรแต่ทุกอย่างทำด้วยงบประมาณรัฐ ดังนั้นอาจทำได้ไม่เร็วมากนัก เพราะมีระเบียบ กติกาและกฎหมาย จะทำให้ทุกคนพอใจเลยทั้งหมดคงไม่ได้

ส่วนการฉีดวัคซีน ยืนยันว่าต้องฉีดให้ได้ในเวลาที่วางไว้ วันนี้ยังไม่มีที่ไหนแจ้งว่ามีปัญหา จึงยังเป็นไปตามแผน ขอให้ทุกคนเข้าระบบหมอพร้อมให้เร็วที่สุด เดิมกำหนดให้แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ด่านหน้า แต่วันนี้เพิ่มกลุ่มย่อยจำนวนมาก และจัดให้เหมาะสม กับวัคซีนที่มาจากต่างประเทศ เดือนมิ.ย.จะมีวัคซีนเข้ามาอีก และจะเข้ามาเพิ่มเติมขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ฝากให้ทุกคนช่วยกันไปฉีดวัคซีน ไม่ต้องให้ใครมาเรียกหรือมาจ้าง สิ่งเหล่านี้เพื่อตัวเราเอง ยืนยันว่ารัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่

เมื่อถามถึงการติดเชื้อจำนวนมากในเรือนจำ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่ วันนี้อยู่ในพื้นที่ควบคุมและจำกัด โดยซีลพื้นที่แล้ว กระทรวงสาธารณสุขก็มีมาตรการลงไป เชื่อว่าเดี๋ยวก็จะคลี่คลายได้ เมื่อป่วยก็มีเตียงรักษา อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับต่างประเทศถือว่าเรายังน้อยกว่ามาก แต่แม้จะน้อย ตนก็ไม่มีความสุข เพราะไม่อยากให้ไม่มีเลย

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ในการฉีดวัคซีนให้คนอายุต่ำกว่า 18 ปี เนื่องจากใกล้โรงเรียนเปิดเทอมแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องถามกระทรวงสาธารณสุข เพราะเกี่ยวกับวัคซีน ต้องฟังทางการแพทย์ที่มีข้อกำหนดอยู่แล้ว ไม่ฟังหมอแล้วจะฟังใคร

เมื่อถามถึงการตรวจหาเชื้อเชิงรุกจะมีอุปกรณ์เพียงพอหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พออยู่แล้ว และจะหาเพิ่มเรื่อยๆ เพื่อเสริมให้อีก แต่สิ่งสำคัญคือขอให้มาตรวจและมาฉีดตามคำแนะนำของแพทย์และสาธารณสุข ไม่เช่นนั้น รัฐทำทางเดียวไม่สำเร็จ

สำหรับโรงพยาบาลบุษราคัมสามารถรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ 1,200 คน และเพิ่มเติมได้ 3,000-5,000 เตียง รองรับผู้ป่วยสีเหลืองที่เล็กน้อยจนถึงปานกลาง ทั้งจากโรงพยาบาลสนาม และสายด่วนใน กทม.และปริมณฑล หากเกิดผู้ป่วยอาการหนักจะส่งไปยังโรงพยาบาลที่มีความพร้อม ทั้งนี้ยังมีเจ้าหน้าที่หมุนเวียนปฏิบัติงานรวม 780 คน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน