“ยุทธพงศ์” จวกรัฐบาล บริหารวัคซีนเหลว จี้ เปิดสัญญา “แอสตร้าเซนเนก้า” ข้องใจจัดซื้อแต่ยังไม่มีฉีด ปูดจับตาถกครม. 1 มิ.ย. ชงต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 พ.ค.ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี และ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลบริหารงานล้มเหลวเรื่องวัคซีนของรัฐบาล เพราะไม่สามารถจัดหาวัคซีนมาฉีดให้คนไทยได้ จนต้องยกเลิกระบบ หมอพร้อม ทั้งให้ประชาชนลงทะเบียนฉีดวัคซีนไปแล้ว ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตั้งเป้าฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ จะปูพรหมฉีดให้ประชาชน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือไม่มีวัคซีนมาฉีดทั้งที่เงินที่รัฐบาลใช้สั่งซื้อวัคซีนมาจากภาษีของประชาชน จึงถามว่าเหตุใดไม่มีวัคซีนฉีดให้ประชาชน ขณะที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สามารถนำวัคซีนทางเลือก คือ ชิโนฟาร์ม เข้ามาฉีดให้คนไทยได้ นี่สะท้อนให้เห็นการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลอย่างชัดเจน อีกคำถามคือ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า อยู่ที่ไหน ที่เห็นมีแต่ซิโนแวคให้กับประชาชน แล้วประชาชน เช่น ผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยง 7 โรค ที่รอฉีดจำนวนมากจะทำอย่างไร
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ตนได้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ที่รับจ้างผลิตวัคซีนให้แอสตราเซนเนก้าในภูมิภาคอาเซียน ยึดนโยบายไม่กำไร ไม่ขาดทุน เพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์ โดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ลงนามในสัญญารับจ้างการผลิตในปี 63 ให้บ.แอสตราเซเนก้า เมื่อผลิตเสร็จและส่งมอบแล้ว การสั่งซื้อและการกระจายวัคซีนเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลของประเทศต่างๆกับแอสตราเซเนก้า โดยไม่เกี่ยวกับการสั่งซื้อและกระจายวัคซีนให้รัฐบาลไทย เพราะเมื่อผลิตเสร็จก็ส่งให้บริษัทแอสตรสเซนเนก้า ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างแล้ว
จึงขอเรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ ผอ.ศบค. ประกาศออกมาว่า วันที่ 7 มิ.ย.นี้ จะมีวัคซีนฉีดให้ประชาชนหรือไม่ และขอให้นำสัญญาที่จัดซื้อวัคซีนกับทางแอสตราเซนเนก้า แสดงให้ประชาชนดู เพราะประชาชน จะได้ทราบได้ว่าจัดซื้อ และกำหนดวันนัดส่งมอบอย่างไร เหตุใดไม่มีวัคซีนให้ฉีด ถ้าล่าช้าสามารถปรับได้หรือไม่ และหากความการล่าช้าของวัคซีน เป็นผลมาจากการบริหารงานของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ออกคำสั่งรวบอำนาจมาไว้ที่ตัวเองคนเดียวหรือไม่ และทราบว่าขณะที่ปัญหาโควิดแก้ไม่ได้
แต่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับห่วงเจ้าสัว โดยจะนำเรื่องต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว เข้าที่ประชุมครม.เสนอเป็นวาระจร ในวันที่1 มิ.ย.นี้ ก็ต้องถามว่าระหว่างหาวัคซีนมาฉีดให้คนไทย กับการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวอะไรเร่งด่วนและสำคัญกว่ากัน เรื่องสัมปทานนี้ไม่เร่งด่วนเลย หนี้ที่เกิดขึ้นก็ต้องไปถามผู้ว่าฯกทม. ที่ไปสร้างหนี้ เปิดให้ประชาชนนั่งฟรี ถามว่า เปิดให้ประชาชนนั่งฟรีทำไม เรื่องที่ฟ้องร้องอยู่ในป.ป.ช. ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ และที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยกว่า 100 คน ลงชื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ก็ยังไม่มีคำวินิจฉัยออกมา ดังนั้นขอเตือนว่า รัฐมนตรีที่ร่วมประชุม ครม. ในวันอังคารที่1มิ.ย.นี้ หากร่วมอนุมัติให้การต่อสัมปทานนี้ผ่านจะถูกดำเนินคดีทั้งหมด ทั้งนี้ถ้านำเรื่องนี้เข้าครม.จริง ตนจะถล่มนายกฯในสภาฯ และขอให้นายกฯเอาเข้าแล้วให้มาสภาฯอย่าหนีก็แล้วกัน
ด้าน นายจิรพงษ์ กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดนนทบุรี มีการสั่งปิดตลาด และสถานบริการจำนวนมาก รวมทั้งห้ามออกจากเคหะสถานในช่วงเวลากลางคืน เพราะยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลมาตลอดจึงขอให้รัฐบาลเร่งจัดหาวัคซีนอย่างเป็นธรรม
โดยวัคซีนที่จะเข้ามาเดือนมิ.ย.จำนวน 6 ล้านโดส จ.นนทบุรีจะได้รับวัคซีนเพียง 6 หมื่นโดส ซึ่งไม่เพียงพอกับการติดเชื้อเป็นอันดับ 2 ของประเทศและเสนอว่าจ.นนทบุรี มีศูนย์สาธารณสุขกว่า 11 แห่ง ขอให้ประชาชนเพียงแค่ไปฉีดที่ศูนย์ไม่ต้องไปที่ไหน และขอเรียกร้องเรื่องการเยียวยา เพราะเงิน2พันบาทที่ให้ล่าสุดไม่เพียงพอ อยากให้รัฐบาลนำองคาพยพต่างๆ เช่น กองทุนหมู่บ้าน กองทุน กยศ. กองทุนต่างๆส่งเข้ามาในระบบให้ถึงรากหญ้า ให้ถึงประชาชน จะเติมคำว่า ประชารัฐต่อท้าย เพื่อดึงกองทุนมาช่วยประชาชนก็ให้ทำเลย
