เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2564 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ว่า ฝ่ายค้านสามารถนำเสนอได้ว่างบประมาณที่ดีควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งหลายเรื่องเห็นด้วยว่าควรจะตัดอะไร แต่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือมากกว่านี้จากพรรคร่วมรัฐบาล

วันนี้เราเห็นปรากฏการณ์ที่พรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคภูมิใจไทย(ภท.) พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ออกมาวิพากษ์วิจารณ์หลายเรื่องที่คิดว่าควรจะตัดหรือปรับปรุงแก้ไข แต่ถ้าท่านอยากจะทำให้ดีกว่านี้ ไม่อยากจะดีแต่พูดท่านควรโหวตด้วย ต้องแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนด้วยว่าไม่เห็นด้วยจริงๆ มิเช่นนั้น จะกลายเป็นการเล่นปาหี่ เล่นละครเพื่อกดดันให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ที่ต้องการ สุดท้ายผลลัพธ์ที่แย่ๆ ก็ตกอยู่ที่ประชาชนอยู่ดี ซึ่งไม่อยากให้เป็นแบบนั้น พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์จะต้องตอบคำถามประชาชนว่าสิ่งที่ออกมาอภิปรายในสภา คือ ปาหี่หรือความจริงใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถตอบคำถามประชาชนได้ แนวโน้มผลกระทบที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องประเมินกันตรงๆ ว่า พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ แตกต่างกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ ยังมี ส.ว.อยู่ในมือ เกิดอะไรขึ้นยังมีคนหนุนหลัง แต่พรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ถ้าปราศจากประชาชนสนับสนุน พวกท่านจะเป็นนักการเมืองหรือ ส.ส.ได้อีกนานแค่ไหน ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่เชื่อมั่นการบริหารงบประมาณภายใต้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ อีกแล้ว

ด้าน นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้ว่า คำพูดของนายโรม บ่งบอกถึงความรู้สึกนึกคิด ประสิทธิภาพของการทำหน้าที่ผู้แทนราษฏรเป็นอย่างมาก ที่ยังไม่เข้าใจการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี ที่โดยหลักการส.ส.สามารถอภิปรายในวาระที่หนึ่งชั้นรับหลักการได้อย่างกว้างขวาง มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งคำอภิปรายที่ติติงไว้ จะถูกส่งต่อไปยังวาระที่สองในชั้นกรรมาธิการ ที่ทุกพรรคการเมืองสามารถปรับปรุงได้อยู่แล้ว เพื่อให้การจัดสรรงบประมาณเกิดความเหมาะสมและเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมให้มากที่สุด

“นักการเมืองและพรรคการเมืองที่ดีไม่ต้องกังวล เพราะจะมีคำตอบให้กับประชาชนได้อยู่แล้ว และต้องคิดให้เป็นว่าสิ่งใดที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศ ควรมองและทำตามความเป็นจริง ไม่ใช่อยู่ตรงกันข้ามกันแล้วสิ่งที่อีกฝ่ายทำอะไรก็ผิดไปทั้งหมด เรื่องงบประมาณก็เช่นกัน เป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของประชาชนและประเทศ ไม่ควรใช้อารมณ์และความรู้สึกหรือประโยชน์ส่วนตนหรือประโยชน์ส่วนพรรคมาอยู่เหนือส่วนรวม หากพรรคก้าวไกลคิดว่าเรื่องงบประมาณไม่สำคัญกับประชาชนและประเทศ ก็ประกาศโหวตไม่รับและไม่ต้องส่งคนไปร่วมเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณ”นายราเมศ กล่าว

นายราเมศ กล่าวว่า ยืนยันการอภิปรายของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นการอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ จริงใจ ตรงไปตรงมา มีข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ไม่ใช่เป็นการปาหี่อย่างที่กล่าวหา และจะมีมติรับหลักการในวาระที่หนึ่ง ส่วนไหนที่ต้องปรับแก้ กรรมาธิการในส่วนของพรรคจะไปทำหน้าที่ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน