เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 23 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. กล่าวถึงกรณีพล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อเข้าพบพูดคุยกับตนว่า ผบ.ทสส.มาเชิญไปร่วมพิธีมงคลสมรสของบุตรเท่านั้น ทั้งนี้ ตนได้สอบถามถึงความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของนักเรียนเตรียมทหาร ภัคพงค์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย และวันเดียวกันนี้ ผบ.ทสส.จะเชิญครอบครัวของน้องเมย มาพูดคุยเพื่อปรับหาทางออก เพื่อให้เกิดความเข้าใจ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ไม่มีใครอยากให้บาดเจ็บ เกิดความสูญเสียขึ้น เพราะเพียงการฝึกซ้อมเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับว่ามีการทำอย่างอื่นนอกเหนือจากนั้นหรือไม่ เพราะจะทำไม่ได้ ที่ผ่านมาสื่อมวลชนได้เข้าทำข่าวการฝึกทหารทั้งจู่โจม โดดร่ม ดำน้ำ ซึ่งทั้งหมดมีวิธีการของการฝึกอยู่แล้ว ถ้าเป็นนักเรียนก็ฝึกอีกแบบหนึ่ง ตนก็เคยฝึกแบบนี้มาหมดแล้ว
ส่วนที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าไม่อยากถูกซ่อมก็ไม่ต้องมาเป็นทหาร พล.อ.ประยุทธ์ ถามสื่อกลับว่า สื่อจะต่อว่ารองนายกฯของตนใช่หรือไม่ ซึ่งพล.อ.ประวิตรบอกกับตนว่า ไม่ได้ตั้งใจตอบแบบนั้น แต่สื่อถามให้อารมณ์เสีย
ส่วนจะมีการปรับเปลี่ยนบทลงโทษในการฝึกวินัยหรือไม่ นายกฯ กล่าวถามกลับว่า จะให้ปรับเป็นแบบไหน ส่วนตัวเชื่อว่ามีบรรทัดฐานอยู่แล้ว เพราะบางคนก็ผ่านการฝึกแบบนี้มาอยู่แล้ว จึงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าแก้ปัญหาผิดวิธีก็ทำไม่ได้ เพราะทั้งหมดจะเกิดความเสียหาย ขณะนี้จึงต้องมองว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องเหล่านี้กับเด็กรุ่นใหม่ และความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมาก ขณะที่ต่างประเทศก็มีหลักสูตรธำรงวินัยแบบนี้เช่นกัน ถ้าฝึกแบบธรรมดาก็ได้คนธรรมดาที่ไม่อดทน ดังนั้น ต้องทำไม่ให้เกิดความสูญเสีย และมันคนละเรื่องกัน
