บิ๊กตู่ เยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีน โควิด-19 ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง วอนอย่าเชื่อข้อมูลในโซเชียลมากนักทำให้บริหารงานยาก “บิ๊กป้อม” นำรัฐมนตรี พปชร.รุดรับแน่น

เมื่อเวลา 10.25 น. วันที่ 7 มิ.ย.64 อาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนผู้ประกันตน มาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หลังจากช่วงเช้า ได้ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ที่สถานีกลางบางซื่อ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ แล้ว โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม พร้อมรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยต้อนรับ

สำหรับศูนย์บริการฉีดวัคซีน สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำรัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาทิ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน นอกจากนี้ยังมีนายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ร่วมต้อนรับนายกฯ และคณะ

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เยี่ยมชมศูนย์ฉีดวัคซีนผู้ประกันตนมาตรา 33 พร้อมให้กำลังใจผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีน โดยกล่าวตอนหนึ่ง ว่า นายกฯ ให้ความสำคัญกับภาคแรงงานและทุกคน เพราะอยู่ในภาคผลิตและแรงงานทุกคนเป็นกำลังสำคัญให้กับบ้านนี้เมืองนี้

ดังนั้น จะหยุดกิจการไม่ได้ เราจึงต้องทำให้ดีที่สุด รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างที่สุด ร่วมกับประชาชนกลุ่มอื่นๆ โดยดำเนินการหลายช่องทางเพื่อให้เข้าถึงวัคซีนทั้งหมอพร้อม และในส่วนของกระทรวงแรงงาน ซึ่งรัฐบาลต้องคิดปรับระบบให้ได้ เพราะมีคนจำนวนมาก ขอขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดเป็นงานของพวกเราทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มที่สร้างรายได้ให้ประเทศ วันนี้หยุดไม่ได้ เราต้องปรับไปเรื่อยๆ

ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการฉีดได้เลย ฉีดให้เร็วไม่ต้องรอตน เพราะทุกคนรอมานานแล้ว และไม่ต้องกลัวเข็ม ต้องกลัวโควิดมากกว่า หลังจากฉีดเข็มแรกแล้วภูมิต้านทานก็ขึ้นมาเยอะ ดีใจกับทุกคนที่ได้ฉีดวันนี้ รัฐบาลอยากให้ฉีดทุกคน สำหรับภาคบริการโรงแรมและการให้บริการสาธารณะมีโอกาสเสี่ยง เราได้ปรับตามสถานการณ์ และวันนี้อาจมีปัญหาอยู่บ้างค่อยๆ จัดระเบียบ ยืนยันว่าไม่มีใครอยากเลื่อน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นายกฯรักทุกคน ไม่มีลำเอียง วันนี้ต้องบริหารให้ได้ เห็นใจผู้ว่าฯ แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำงานหนักและเสี่ยง และขออย่าเชื่อทุกอย่างที่เห็น เพราะไม่ใช่ข้อเท็จจริง ขออย่าไปสนใจ เพราะจะทำให้บริหารงานยากขึ้น ตนบังคับและห้ามไม่ได้ โดยเฉพาะในโซเชียลจำนวนมาก แต่ก็อย่าไปสนใจมากนักโดยเฉพาะเรื่องไม่เป็นข้อเท็จจริงในโซเชียลต่างๆเพราะยิ่งทำให้การบริหารงานนั้นยากขึ้น

“นายกฯ เป็นกังวลทุกวัน ไม่มีความสุข จะมีความสุขได้ยังไงในเมื่อพวกเราลำบาก ผมขออย่างเดียวขอให้ทุกคนเชื่อมั่น หากเชื่อมั่นทำได้หมด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยม ว่า ขอบคุณทุกคนที่สมัครใจมาฉีดวัคซีนกันมากขึ้น ยืนยันฉีดพร้อมกันทั้งประเทศและทุกจังหวัด ทยอยมากน้อยตามสถานการณ์ รวมทั้งตามคลัสเตอร์ต่างๆ และวันนี้ดูด้านเศรษฐกิจว่าทำอย่างไรให้ประชาชนมีรายได้และมีอาชีพ ยืนยันทยอยฉีดทุกจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ส่วนตรงไหนมีคลัสเตอร์ใหม่ๆ ก็มีการสำรองวัคซีนไว้ เพื่อปรับตามสถานการณ์

รวมทั้งวัคซีนที่ติดต่อไว้แล้วทั้งแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวค ก็จะทยอยส่งเข้ามา ขณะเดียวกัน ก็ได้ลงนามกับบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เพื่อนำวัคซีนเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นรายละเอียดที่จะต้องตกลงกับบริษัทผู้ผลิต ว่าจะส่งมอบได้จำนวนเท่าไหร่และช่วงไหน โดยรัฐบาลจะพิจารณากระจายวัคซีนไปยังทุกพื้นที่ โดยพิจารณาจากข้อมูลสถานการณ์ความจำเป็น และประมาณการณ์วัคซีนที่มีอยู่แต่ละเดือน และขออย่าเอาตัวเลขมาทำให้สับสนอลม่านไปหมด ย้ำว่าเป็นไปตามแผนหลักคือประเทศไทยเริ่มมิ.ย.เป็นต้นไป

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อะไรก็ตามที่รัฐบาลให้ข้อมูลข่าวสาร บางครั้งไม่เข้าใจกันอยู่บ้าง จึงขอให้ฟังทางการ และขอให้เชื่อมั่นนายกฯ ยืนยันว่าทำเต็มที่ในการให้ประชาชนได้รับวัคซีนให้มากที่สุด ขอให้ทุกคนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และฟังข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์และมีภูมิต้านทาน ว่าจะเชื่อหรือโพสต์อะไรก็แล้วแต่ ประเทศไทยมีโอกาสมากกว่าหลายประเทศและฟื้นตัวได้เร็วพอสมควร จึงขอให้ทุกคนช่วยกัน สิ่งสำคัญทำอย่างไรวันนี้ลดการแพร่ระบาดให้ได้ เพื่อควบคุมเป็นพื้นที่และเป็นกลุ่มให้ได้ วันนี้ทุกคนช่วยกันทำประเทศไทยปลอดภัย

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนผู้ประกันตนมาตรา 33 ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติ กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ห่วงใยผู้ใช้แรงงาน ตนจึงมอบหมายสำนักงานประกันสังคม บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทยโดยกรุงเทพมหานคร

กระทรวงสาธารณสุขโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงการคลังโดยธนาคารกรุงไทย และสถานพยาบาลเครือข่ายประกันสังคม ทั้งภาครัฐและเอกชน บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับผู้ประกันตน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้กระจายออกสู่วงกว้างทั้งในโรงงานและสถานประกอบการ เบื้องต้นกำหนดจัดการฉีดวัคซีนให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 7-26 มิ.ย. ซึ่งวัคซีนล็อตแรกจำนวน 1 ล้านโดส จะฉีดให้กับผู้ประกันตนที่แจ้งความประสงค์ต้องการรับวัคซีนโควิด-19 กับนายจ้าง

และบันทึกลงระบบ e-service ตามที่สำนักงานประกันสังคมได้สำรวจตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมจัดลำดับคิวการฉีดวัคซีนไว้เรียบร้อย ตามลำดับที่นายจ้างได้แจ้งความประสงค์ผ่านระบบ และได้ประสานนายจ้างจัดให้ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เข้ารับการฉีดวัคซีนตามจุดที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดไว้ 45 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร

เช่น สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อาคารซันทาวเวอร์ ศูนย์กีฬาบางขุนเทียน และตามที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของสถานประกอบการที่ลูกจ้าง/ผู้ประกันตนทำงานอยู่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-12 ได้จัดเตรียมสถานที่ แพทย์ พยาบาล เภสัชกร อุปกรณ์ทางการแพทย์จากโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคม 23 แห่ง โดยมีศักยภาพในการฉีดได้วันละ 50,000 คน ซึ่งทุกศูนย์ให้บริการระหว่างเวลา 08.00-17.00 น.

“ขอให้ผู้ประกันตนทุกคนมั่นใจ กระทรวงแรงงานพร้อมดำเนินงานอย่างเต็มความสามารถ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกันตนเข้าถึงบริการวัคซีนโควิด-19 อย่างแน่นอน สำหรับผู้ประกันตนที่ลงทะเบียนไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้รับการนัดหมายให้เข้ารับการฉีดวัคซีนในล็อตแรก หากสำนักงานประกันสังคมได้รับการจัดสรรวัคซีน จะนัดหมายให้เข้ารับการฉีดในล็อตถัดไป เรียงตามลำดับการลงทะเบียน

ทั้งนี้ หากท่านไม่มาตามกำหนดเวลาจะถือว่าสละสิทธิ์ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองโรคโควิด-19 รวมถึงการเข้ารับการรักษา ติดต่อสายด่วน 1506 กด 6 และ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ติดต่อสายด่วน 1506 กด 7 เจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ” นายสุชาติ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน