บิ๊กตู่ ขออภัย! ในฐานะผบ.สูงสุดสงครามโควิด รับไม่สบายใจต้องเลื่อนฉีดวัคซีน ชี้ฉีดเต็มอำนาจวัคซีนหมดก็ต้องหยุด พร้อมฉีดทันทีที่ได้เพิ่ม

เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 15 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวหลังเป็นประธารการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ปัจจุบันกระจายวัคซีนไปแล้ว 7 ล้านโดส มีการฉีดวัคซีนแล้ว 6.5 ล้านโดส โดยตั้งแต่คิกออฟ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมาฉีดไปแล้ว 2 ล้านโดสในเวลา 1 สัปดาห์ ถือเป็นขีดความสามารถของเรา ถ้าวัคซีนเข้ามามากกว่านี้ก็จะฉีดได้มากกว่านี้ตามระยะเวลาที่กำหนด ต้องขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ จิตอาสา ในการดูแลอำนวยความสะดวกที่ได้รับการชมเชยจากประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการจัดสรรวัคซีนไปยังจุดบริการทั่วประเทศอย่างทั่วถึงและพอเพียง ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ส่วนที่มีการรับฟังจากข่าวหรือการประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนจากโรงพยาบาลต่างๆ อาจทำให้เกิดความไม่สบายใจ และเข้าใจว่าภาครัฐจัดสรรวัคซีนไม่เพียงพอ หรือไม่มีการประสานงานกันนั้น ตนรับทราบข่าวนี้มาตลอดและไม่สบายใจ ยืนยันพยายามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวัน และสั่งการไปยังผู้รับผิดชอบ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดและสบายใจขึ้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญอยู่ที่ปริมาณวัคซีนที่ทยอยเข้ามาต้องมีความสมดุลกับขีดความสามารถในการฉีดวัคซีนในแต่ละวัน ระยะเวลาที่ให้ไป จะต้องฉีดภายในกี่วัน ถ้าเราฉีดเต็มอำนาจไปเลยวัคซีนหมดก็ต้องหยุด นั่นคือข้อเท็จจริง ถ้ามีวัคซีนมากก็พร้อมจะให้ทั้งที่ให้ไปแล้วและเพิ่มให้ ซึ่งต้องมีการบริหารจัดการที่ดีขึ้นในวาระต่อไป ภาพรวมในการดำเนินการตามวาระแห่งชาติในการฉีดวัคซีนนั้น แต่ละหน่วยงานมีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ ไม่ใช่ตนไปยึดอำนาจไว้คนเดียว ขณะเดียวกันย้ำว่าวัคซีนมาเป็นรอบ ไม่ใช่มาครั้งเดียว 6 หรือ10 ล้านโดสตั้งแต่ต้นเดือน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลักการหรือสูตรที่ใช้จัดสรรวัคซีนที่ตนสั่งการไปมีดังนี้ 1.เมื่อมีวัคซีนมากระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบแล้วต้องส่งให้กับทุกจังหวัดทันที จะไม่มีจังหวัดใดไม่ได้เพิ่มเติมในแต่ละรอบ ซึ่งในอนาคตอาจยกเว้นจังหวัดที่ได้ครบเป้าหมายแล้วหรือจังหวัดที่ศบค.พิจารณาว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดด้วย

2.จำนวนวัคซีนที่ส่งให้กับแต่ละจังหวัดขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่ต้องนำมาคำนวณด้วย ทั้งจำนวนประชากร จำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนผู้จองในระบบ ทั้งในระบบและพร้อมและระบบของจังหวัด รวมถึงกลุ่มเฉพาะกลุ่มอาชีพเสี่ยงหรือพื้นที่เศรษฐกิจ

3.หากจำนวนนักเรียนที่ได้คำนวณแล้วไม่เพียงพอต่อการฉีดในระยะเวลาภายในรอบนั้น ให้แต่ละจังหวัดพิจารณาจัดสรรให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มโรคเสี่ยงที่ลงทะเบียนไว้ก่อนแล้ว 4.หากมีความจำเป็นที่ต้องชะลอการฉีดวัคซีนตามกำหนดเดิม ระหว่างรอการนำส่งวัคซีนต้องยึดลำดับเดิมไว้ก่อน โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่และจัดการฉีดตามลำดับเดิมทันทีที่ได้รับการจัดสรร จึงขอให้เข้าใจตรงกันและดำเนินการตามนี้ เพราะเป็นที่มติที่ประชุมร่วมกันในการบริหารจัดการวัคซีน

“ในฐานะที่ผมเป็นนายกฯ และผอ.ศบค. ถือเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดในสงครามโควิดในครั้งนี้ ต้องขออภัยด้วยกับปัญหาที่เกิดขึ้น และขอรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาทั้งหมด ซึ่งผมดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกวันทุกเวลาอยู่แล้ว เพราะนี่คือวาระแห่งชาติที่ผมประกาศออกไป เราต้องร่วมใจกันทุกฝ่ายในการดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จ เพื่ออนาคตของประเทศชาติ ปัญหาอุปสรรคอาจเกิดขึ้นได้ตลอด โดยเฉพาะระยะแรกทั่วโลกวัคซีนยังมีจำกัดและกระทบต่อการจัดการ แต่จากการวางแผนของรัฐบาลที่มาอย่างต่อเนื่องการจัดหาวัคซีนล่วงหน้า ทำให้รามั่นใจว่าจะได้รับวัคซีนอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ จากหลายแหล่ง”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอย้ำว่ารัฐบาลได้จัดหาวัคซีนอย่างเพียงพอต่อคนในประเทศไทยทุกคน และขณะนี้จัดหาวัคซีนเป็นไปตามเป้าหมาย 100 ล้านโดส เพื่อฉีดให้ประชาชน 50 ล้านคน 70 % ของประเทศในสิ้นปีนี้และเตรียมการปีหน้าด้วย ซึ่งหากได้วัคซีนมาเพิ่มก็จะฉีดวัคซีนเพิ่มไปให้เป็น 80-90 % เพราะเรามีขีดความสามารถในการฉีดอยู่แล้ว จึงขอให้ติดตามและช่วยกัน ถ้าเราพูดจากันไม่ดี เจ้าหน้าที่คนหน้างานอีกหลายหมื่นคนก็เกิดความท้อแท้และหมดกำลังใจเหมือนกัน จึงต้องประสานงานกันให้ได้ทั้งระดับบน กลาง และล่าง พร้อมทำความเข้าใจประชาชนด้วย อีกทั้งขอร้องสื่อทุกประเภทด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า การบริหารจัดการวัคซีนเป็นไปอย่างโปร่งใสในการทุจริตโดยเด็ดขาด และเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าด้วยศักยภาพและความทุ่มเทของบุคลากรในการจัดการควบคุมการแพร่ระบาดและการฉีดวัคซีน เราจะต้องชนะสงครามโควิดครั้งนี้ไปด้วยกัน และขอเน้นย้ำว่าตน รัฐบาลและครม.ทุกคนมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในขณะที่ยังไม่พ้นวิกฤตโควิด-19 และที่ผ่านมาเราทำอย่างดีแต่ต้องดูทุกอย่างให้สมดุลทั้งสุขภาพ ประชาชน และการเตรียมการในอนาคตควบคู่กัน หยุดด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้ ถือว่าที่ผ่านมาเราทำได้ดีอันดับๆต้นๆของโลก นอกจากนี้กำชับเรื่องทุจริต ละเว้นใครไม่ได้อยู่แล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน