กลุ่ม Re-Solution ชวนประชาชนร่วมลงชื่อ ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์ ผลักดันร่างแก้ไขรธน. “มายด์-ภัสราวลี” เผย หากมีช่วงเหมาะสมพร้อมเคลื่อนไหวนอกสภา

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2564 ที่อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ กลุ่ม Re-Solution นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า นายพริษฐ์ วัชรสินธุ นายเอกพันธุ์ ปิณพวณิช และน.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ร่วมกันแถลงถึงการเข้าชื่อประชาชนแก้รัฐธรรมนูญ “ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์” ยื่นต่อผู้เชิญชวน 20 คนเพื่อดันร่างฉบับนี้เข้าสภา

โดยนายปิยบุตร กล่าวว่า เราเล็งเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังเป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจของคสช. จึงจำเป็นต้องมีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แต่กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับถูกคว่ำไปด้วยสมาชิกรัฐสภาบางส่วน และมีทีท่าว่าจะหันมาแก้ไขรายมาตราแทน

ฉะนั้น ระหว่างที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังไม่เกิดขึ้นก็จำเป็นต้องมาพูดกันว่าหากจะแก้รายมาตรานั้นจะต้องแก้อย่างไร หากจะแก้รายมาตราต้องแก้ 4 ประเด็นสำคัญที่ค้ำจุนระบอบประยุทธ์ ได้แก่ ล้มวุฒิสภาให้กลายเป็นสภาเดี่ยว ปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ เลิกยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ และล้างมรดกรัฐประหาร

นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า พรรคการเมืองหลายพรรคเริ่มพูดกันแล้วว่าจะเร่งเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเข้าสู่การพิจารณาของสภา ถึงขนาดที่ว่าจะแซงญัตติที่ค้างอยู่ เราจึงมีความจำเป็นต้องเร่งเข้าชื่อตามรัฐธรรมนูญกำหนดจำนวน 50,000 รายชื่อ เพื่อนำร่างแก้ไขฉบับนี้เข้าไปประกบกับร่างอื่นๆ ในสภา

ขณะนี้มีการประกาศใช้พ.ร.บ.การเข้าชื่อเสนอกฎหมาย โดยระบุว่าต้องมีผู้เชิญชวนอย่างน้อย 20 คน เป็นผู้เชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศมาเข้าชื่อร่วมกัน ซึ่งเราได้รายชื่อผู้เชิญชวนครบตามที่กฎหมายกำหนดเรียบร้อยแล้ว

ด้านนายพริษฐ์ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญในภาพรวมต้องเดิน 2 เส้นคู่ขนานกัน เส้นที่ 1 คือ การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงอยากเรียกร้องให้รัฐสภาผ่านกฎหมายประชามติอย่างรวดเร็วเพื่อทำประชามติถามประชาชนว่าต้องการเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มาทดแทนรัฐธรรมนูญ 60 หรือไม่

เส้นที่ 2 คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา จะเห็นว่ามีหลายกลุ่มที่เสนอแก้รายมาตรา ซึ่งปัจจุบันมี 4 กลุ่ม 14 ร่าง 18 ประเด็น ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ พรรคร่วมรัฐบาลนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ พรรคร่วมฝ่ายค้านนำโดยพรรคเพื่อไทย และกลุ่ม Re-Solution ซึ่งบางข้อเสนอมีการเอื้อผลประโยชน์ให้พรรคการเมืองบางกลุ่ม เช่น ข้อเสนอของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หรือการแก้ไขมาตรา 144 หรือ 185 ที่ให้ ส.ส. สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดินหรือหน่วยงานงานราชการได้ง่ายดายขึ้น และข้อเสนอใดก็ตามที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งก็เข้าข่ายข้อเสนอนี้เช่นกัน

เราไม่จำเป็นต้องกลับไปเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบแบบปี 2540 ก็มีทางเลือกอื่นๆ เช่น บัตรเลือกตั้ง 2 ใบแบบสัดส่วน ที่ทำให้ไม่มีคะแนนเสียงตกน้ำและทำให้ทุกพรรคได้สัดส่วนของ ส.ส.ในสภาเท่ากับสัดส่วนคะแนนที่แต่ละพรรคได้ในการเลือกตั้ง ปัญหาเลือกตั้งแบบปี 2562 ไม่ได้อยู่ที่ตัวระบบเพียงอย่างเดียว แต่ต้นตออยู่ที่การตั้งคำถามต่อความเป็นกลางในการทำงานของ กกต. หรือองค์กรอิสระ

เราขอเรียกร้องให้ทุกพรรคร่วมกันคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของนายไพบูลย์ อยากให้พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ร่วมสังฆกรรมการเร่งรัดการแก้ไขรายมาตราที่ริเริ่มโดยพรรคพลังประชารัฐ เพราะหากไม่ระวังอาจเข้าทางผลประโยชน์ของระบอบประยุทธ์

เราขอเชิญชวนประชาชนทุกคนมาร่วมลงชื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของกลุ่ม Re-Solution อย่าปล่อยให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการแก้แค่รายละเอียดที่เอื้อประโยชน์บางกลุ่มหรือแก้แค่ระบบเลือกตั้งที่ไม่แตะต้นตอของปัญหา อยากเชิญชวนทุกคนมาร่วมกันทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการขจัดระบอบประยุทธ์ เพื่อให้ทุกพรรคสามารถแข่งขันกันได้บนกติกาที่เป็นธรรม” นายพริษฐ์ กล่าว

ขณะที่ นายธนาธร กล่าวว่า ขณะนี้มีการเสนอการเสนอแก้ไขรายมาตราโดยข้ามการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติ ทั้งๆ ที่หากมีความตั้งใจจริงที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยมาแล้ว สิ่งที่ต้องเร่งทำคือพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติให้จบ จากนั้นจึงทำประชามติสอบถามประชาชน ซึ่งเป็นวิธีการที่ดีที่สุดและนำมาสู่การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้

แต่ผู้มีอำนาจกลับเสนอแก้แบบรายมาตราเข้ามา และความพยายามครั้งนี้คือแก้รายมาตราที่ว่าด้วยระบบการเลือกตั้ง นี่คือการสืบทอดอำนาจครั้งที่ 2 เป็นความพยายามสืบทอดอำนาจต่ออำนาจของระบอบที่มาจากการยึดอำนาจประชาชนของระบอบรัฐประหาร

“เราไม่คาดคิดว่าเปิดสมัยประชุมรอบนี้จะมีการเสนอให้พิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเร็วขนาดนี้ จึงอยากชวนเชิญชวนประชาชนช่วยสนับสนุนกลุ่ม Re-Solution ประวัติศาสตร์ทุกสังคมสอนเราว่าสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคไม่เคยได้มาจากความเมตตาของคนชั้นนำ ประชาธิปไตยไม่เคยได้มาจากการร้องขอ สิ่งเหล่านี้ได้มาจากการเรียกร้อง ยืดหยัดต่อสู้ของประชาชน

ดังนั้น 1 เสียงของทุกคนช่วยพวกเราได้ที่จะผลักดันร่างรัฐธรรมนูญของ Re-Solution โละศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ เลิกยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฎิรูปล้างมรดกรัฐประหาร ล้มวุฒิสภา นี่คือร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราที่มุ่งขจัดต้นตอของปัญหาสืบทอดอำนาจ อยากขอ 1 เสียงจากทุกคนร่วมลงชื่อไปกับพวกเรา ร่วมกันกดดัน ส่งเสียงประชาชนดังๆ ว่าเราต้องการเห็นประชาธิปไตย ไม่ต้องการเห็นการสืบทอดอำนาจระบอบประยุทธ์อีกแล้ว” นายธนาธร กล่าว

เมื่อถามว่ามองความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยอย่างไรบ้าง นายธนาธร กล่าวว่า ตนอยากเชิญชวนสังคมไทย พรรคฝ่ายค้าน และพรรคฝ่ายรัฐบาล ให้มองที่ต้นตอของปัญหาอย่างจริงจัง หยุดการแก้ไขรายมาตราที่มุ่งเน้นแต่ประเด็นที่จะทำให้ระบอบประยุทธ์สามารถดำรงต่อไปได้

ด้านน.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญยังคงเป็นเรื่องหลัก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรัฐประหารซ้ำ ส่วนการเคลื่อนไหวข้างนอกนั้น ตนคิดว่าประชาชนหลายคนยังให้ความสำคัญกับเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ ถ้าหากมีช่วงจังหวะที่เหมาะสมที่จะได้เรียกร้องอย่างเป็นรูปธรรมอีกครั้ง ตนคิดว่าทุกคนก็พร้อม

เมื่อถามถึงข้อเรียกไปยังนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เนื่องจากการบรรจุระเบียบวาระเป็นหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง นายปิยบุตร กล่าวว่า เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองบีบงวดมากขึ้น พรรคร่วมรัฐบาลเริ่มมีปัญหากันเองมากขึ้นจึงหันกลับมาคิดเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ และรีบกันถึงขนาดอยากจะแซงคิว ทั้งที่ร่างพ.ร.บ.ประชามติยังค้างอยู่ในสภา บทบาทของประธานรัฐสภาจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง อย่างน้อยที่สุดรอให้ร่างพ.ร.บ.ประชามติจบไปก่อน ถึงอย่างไรสภาชุดนี้สมัยนี้ยังมีเวลาอีกหลายเดือนที่จะพิจารณาญัตติต่างๆ ที่จะนำเข้ามา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน