ราษฎร-ร้านอาหาร ร้องสภา จี้ รัฐบาลคลาย ‘ล็อกดาวน์’ เปิดทางให้ประกอบอาชีพได้บนมาตรฐานความปลอดภัย ด้าน ส.ส.ก้าวไกล รับเรื่องผลักดันต่อในชั้น กมธ.

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.64 ที่รัฐสภา สัปปายะสถาน กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย ร้านกาแฟ และร้านอาหาร นำโดย Thanwaa และ Doc Club & Pub ร่วมกับตัวแทนกลุ่มราษฎร ภาณุพงศ์ จาดนอก และ พรหมศร วีระธรรมจารี เข้ายื่นหนังสือถึง ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตามตรวจสอบการใช้เงินตามพระราชกําหนด , กรรมาธิการ การเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง และพรรคก้าวไกล เพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา โดยมีข้อเรียกร้อง ดังนี้

1.ยกเลิกคําสั่งปิดธุรกิจร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่มแบบเหมารวม โดยให้มีการปิดเฉพาะร้านที่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อหรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงเป็นระยะเวลา ๑๔ วัน 2.ให้ธุรกิจร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม สามารถกลับมาเปิดได้ ๒๕ – ๓๕% โดยมีมาตรการตามที่ ศบค. กําหนดมาตราการมาให้ 3.ผ่อนปรนให้สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อบริโภคในร้านได้แบบมีการจํากัดเวลา หรือควบคุมปริมาณลูกค้าภายในร้าน 4.จัดเงินกู้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยปราศจากดอกเบี้ยเพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐิกิจในเบื้องต้น

ภาณุพงศ์ จาดนอก ตัวแทนกลุ่มราษฎร กล่าวว่า การยื่นหนังสือในครั้งนี้เพื่อขอให้ทางพรรคก้าวไกลและคณะกรรมาธิการรัฐสภาช่วยเรียกร้องต่อไปยังรัฐบาลให้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ รวมถึงเปิดร้านอาหารให้ผู้ประกอบการได้ประกอบอาชีพตามมาตรการ ศบค. เพื่อกระตุ้นเศรษฐฏิจและเพื่อให้ผู้ประกอบการได้ประกอบอาชีพเลี้ยงตนเอง เนื่องจากปัจจุบันพวกเขาไม่สามารถขายอาหารได้ขณะที่รัฐบาลเองก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิดได้ ด้วยเหตุนี้จึงอยากให้รัฐบาลเล็งเห็นปัญหาของประชาชนที่ยังต้องพึ่งพาอาชีพธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจกลางคืนและผู้ประกอบการด้านต่างๆสามารถดำรงชีวิตได้ด้วยอาชีพที่ทำมา รวมถึงควรผ่อนปรนมาตรการที่รัฐได้กำหนดแต่ไม่สามารถบริหารสถานการณ์หรือเยียวยาผู้ประกอบการเหล่านี้ได้

ด้าน ศิริกัญญา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกวันที่ได้รับหนังสือข้อร้องเรียนจากผู้ประกอบการร้านอาหารและพนักงานกลุ่มธุรกิจกลางคืน คงต้องบอกว่าการที่มีมาตรการควบคุมต่างๆออกมานั้นจะต้องมาพร้อมมาตรการเยียวยา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าซึ่งครั้งนี้เป็นการปิดครั้งที่ 4 รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งไปมามากมายในรอบสองเดือน จนทำให้ผู้ประกอบการไม่มีความหวังว่าสรุปแล้วการควบคุมการระบาดจะยุติลงเมื่อไหร่ เขาจึงไม่สามารถให้ความร่วมมือกับทางรัฐที่จะปิดสถานประกอบการหรือยอมอดทนไม่มีงานทำต่อไปได้อีกแล้ว

การที่ผู้ประกอบการมาในวันนี้ไม่ใช่แค่การเรียกร้องการเยียวยาตามปกติ แต่เป็นการเรียกร้องให้มีการผ่อนปรนมาตรการด้วย ถ้าเชื่อว่าร้านอาหารระบบปิดเป็นสถานที่แพร่ระบาด ก็ต้องพิจารณาถึงร้านอาหารแบบเปิดในพื้นที่โล่งที่สามารถรองรับลูกค้าและสามารถคุมมาตรการสาธารณสุขได้อย่างเพียงพอเช่นกัน กระบวนการแบบนี้จึงไม่สามารถ ใช้มาตรการแบบเดียวบังคับใช้ไปทั่วได้ แต่ต้องการความละเอียดอ่อนในการคิดและพิจารณาเพื่อออกมาตรการต่างๆ ตนจะรับหนังสือนี้และจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ศบค.และกรมควบคุมโรคมาหาทางออกให้ผู้ประกอบการต่อไป

ด้าน สุรเชษฐ์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตาม ตรวจสอบ การใช้เงินตามพระราชกำหนด 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (กมธ.โควิด) รับปากว่า จะนำหนังสือที่ได้รับเข้าสู่การพิจารณาในคณะกรรมาธิการ พรรคก้าวไกลเข้าใจถึงสถานการณ์และได้ติดตามเรื่องนี้มาตลอด แม้เราจะเป็นเสียงข้างน้อยในสภาแต่จะใช้กระบวนการนิติบัญญัติทำทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหา
ให้ราษฎร โดยถ้าจะปิดร้านก็ต้องมีการเยียวยาที่เพียงพอและต้องตอบได้ว่าจะเปิดเมื่อไหร่ รวมถึงต้องศึกษาอย่างมีหลักฐานว่า หากต้องเปิดร้านอาหารจะส่งผลต่อพื้นที่อย่างไรบ้าง โดยจะให้มาชี้แจงทั้งส่วนของผู้ที่มาเรียกร้องและส่วนราชการมาพูดคุยกันเพื่อหาความเป็นไปได้ร่วมกัน

เบญจา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีกรรมาธิการที่กำกับดูแลรับผิดชอบนโยบายและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในด้านนี้ ได้แก่ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตาม ตรวจสอบ การใช้เงินตามพระราชกำหนด 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน