‘พิธา’ ฟาด ล็อกดาวน์จำเป็นต้องทำ แต่หลีกเลี่ยงได้ ถ้าจัดการวัคซีนตั้งแต่ต้น ชี้ต้องไม่เสียของ-สั้นที่สุด แนะปูพรมตรวจแอนติเจน แยกปลาออกจากน้ำให้เร็วที่สุด
เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 8 ก.ค.64 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่อาจจะมีมาตรการการล็อกดาวน์หลังจากจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 และจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องแต่หลีกเลี่ยงได้ ในแง่เรื่องที่ถูกต้อง คือ เป็นเรื่องที่ควรพิจารณากัน ตัวเลขหลายๆ อย่างฟ้องว่าระบบสาธารณสุขของไทยจะไปต่อไม่ไหว และมีโอกาสที่จะต้องบีบบังคับให้บุคลากรทางสาธารณสุขและทางการแพทย์ต้องเลือกว่าจะรักษาใครหรือไม่รักษาใคร
นอกจากตัวเลขที่สื่อมวลชนรายงานเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะตัวเลขนิวไฮของผู้ติดเชื้อหรือผู้เสียชีวิต รวมถึงอัตราว่างของห้องพักแต่ละห้องในโรงพยาบาลเป็นเรื่องที่ทุกคนทราบดี
แต่ตัวเลขที่ตนมอนิเตอร์มาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา คือ ตัวเลขสุทธิผู้เข้า-ออกโรงพยาบาล ซึ่งติดลบมาตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. จนถึงปัจจุบัน จำนวน 2-3 พันคนมาตลอด ซึ่งตัวเลขนี้จะคอยบอกว่าความจำเป็นที่จะต้องมีการล็อกดาวน์น่าจะเกิดขึ้นแน่นอน
นายพิธา กล่าวต่อว่า ส่วนที่พูดว่าหลีกเลี่ยงได้ คือ ตั้งแต่เรื่องการจัดการวัคซีนที่พูดกันมาตั้งแต่เดือนม.ค.ว่าจะต้องมีการจัดการความเสี่ยงและมีความหลากหลายในวัคซีน ไม่ใช่วัคซีนชนิดใดดีกว่าชนิดใดด้วยซ้ำ แต่เพื่อที่จะใช้ได้ถูกกลุ่ม เนื่องจากมีบุคคลมากมายหลายประเภทในประเทศไทยจึงต้องใช้วัคซีนที่แตกต่างกัน สัปดาห์ที่แล้วก็มีการอภิปรายถึงการปรับเปลี่ยนวิธีในการตรวจ
ซึ่งการตรวจมีหลายจุดประสงค์ ตรวจเพื่อสกรีนหรือตรวจเพื่อวินิจฉัย ประเทศไทยใช้พีซีอาร์ในการตรวจเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีข้อดีคือมีความแม่นยำมากแต่ต้องใช้เวลาในการรอผล ทั้งยังมีกฎหมายที่ค้ำคอว่าต้องเป็นพีซีอาร์ถึงจะจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ และต้องเป็นพีซีอาร์เท่านั้นถึงจะเข้าโรงพยาบาลได้ จึงเป็นปัญหาที่ทำให้กลายเป็นวงจรอุบาทว์ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มีคนเสียชีวิตเพราะไม่ได้เตียง เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็เข้าห้องไอซียูเลย
นายพิธา กล่าวอีกว่า จากที่ตนได้เคยเสนอไปในสภาฯ ว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ฟัง ขอคำเดียวให้ไปอยู่ในหูท่าน คือ แอนติเจน เพื่อคัดกรองให้ผลออกมาได้ภายใน 15 นาทีแล้วมาวินิจฉัยต่ออีกครั้งด้วยวิธีพีซีอาร์
ซึ่งหากท่านทำเช่นนี้กับคลัสเตอร์แคมป์คนงานก่อสร้าง ตลาด หรือโรงงานที่เห็นชัดว่าเป็นคลัสเตอร์ ในการปูพรมตรวจแล้วใช้วิธีแอนติเจนเพื่อแยกปลาออกจากน้ำให้เร็วที่สุดก็จะสามารถจัดการได้ วัคซีนก็ทำไม่ได้ บับเบิลแอนด์ซีลก็กลายเป็นบับเบิลแอนด์สเปรซในแคมป์คนงานก่อสร้าง โรงงานและตลาดยังไม่ได้จัดการจนมาถึงตรงนี้
ตนคิดว่าอาจจะถึงจุดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากไม่เพิ่มเตียงไอซียูให้ทันก็อาจจะหมายถึงชีวิตคน ฉะนั้น คำถามตอนนี้อาจไม่ใช่แค่ควรที่จะล็อกดาวน์หรือไม่ล็อกดาวน์ แต่จะล็อกดาวน์อย่างไรให้มีความหมายมากที่สุด ไม่ให้เสียของ และสั้นที่สุด นั่นหมายถึงต้องมีมาตรการในการเตรียมพร้อมเพื่อให้ล็อกดาวน์สั้น ปูพรมตรวจ จัดการให้กลุ่มเปราะบางเข้าถึงปัจจัยสี่ นอกจากนี้ยังต้องควบคุมราคาสินค้าไม่ให้พุ่งสูง รวมถึงแผนในการเปิดเมืองด้วยว่าจะทำอย่างไรไม่ให้โควิด-19กลับมาลุกลามอีกครั้ง
นอกจากนี้ นายพิธา ยังกล่าวถึงวิธีการจัดการกับวัคซีน 1.5 ล้านโดสที่กำลังจะเข้ามาด้วย ว่า สิ่งที่เรารู้คือมีทั้งหมด 80 ล้านโดส โดยในเฟสแรกทั่วโลกมี 25 ล้านโดส จัดสรรมาที่เอเซีย 7 ล้านโดส ซึ่งประเทศไทยมีรายชื่ออยู่ในนั้นด้วย
แต่สิ่งที่เราไม่รู้คือมีการเกลี่ยมาที่ประเทศไทยเท่าไหร่ และเวลาที่เข้ามาจะทันกับวิกฤตกับการกลายพันธุ์ของเดลต้า เดลต้าพลัส หรือสายพันธุ์ต่างๆ จะทันหรือไม่ นี่สิ่งที่ตนต้องยืนยันในฐานะบุคลากรทางการเมือง ที่เหลือต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่เป็นคนจัดการ
