วันที่ 29 พ.ย. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา นปช.รอการตอบรับหรือไม่รับนัดจากป.ป.ช. เพื่อหารือแนวทางดำเนินการคดีสลายการชุมนุมปี 2553 ปรากฏว่าไม่มีท่าทีหรือสัญญาณใดๆ ตอบกลับมา แม้จะคาดการณ์ไว้ก่อน แต่แทบไม่เชื่อว่าป.ป.ช.จะเพิกเฉยเช่นนี้
เลขาธิการนปช. กล่าวว่า การอ้างว่าเคยมีมติยกคำร้องไปแล้วนั้น ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างถึงที่สุด กฎหมายยังเปิดช่องให้พิจารณาใหม่ได้ คดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยกฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯและพวกไปแล้ว เขายังเรียกร้องให้อุทธรณ์และประกาศจะเดินหน้าต่อไป แล้วคดีนปช.จะให้ยอมรับว่าทุกอย่างต้องจบที่ป.ป.ช.ได้อย่างไร
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า อยากถามกรรมการป.ป.ช.แต่ละคนว่าเมื่อเห็นสำนวนฟ้อง นายสมชายกับพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เทียบกับสำนวนยกคำร้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. ยอมรับได้จริงหรือว่านี่คือความยุติธรรม จะนั่งนิ่ง ทับเรื่องนี้ไว้จนพ้นวาระได้ลงคอหรือ ตนรู้มาตลอดว่าการผลักดันเรื่องนี้ยากยิ่งกว่าเข็นภูเขาเข้าครก แต่ไม่คิดว่าต้องยอมแพ้ ยิ่งยากยิ่งต้องเดินให้ถึงที่สุด ไม่ควรมีใครต้องตายในเหตุการณ์นี้ แต่ยิ่งเดินยิ่งเจ็บเพราะไม่มีอะไรจะเจ็บปวดเกินกว่าความเป็นมนุษย์ที่ถูกมองเป็นอากาศธาตุจากกระบวนการยุติธรรม
“หลังจากนี้ทีมกฎหมายจะหารือกับญาติผู้เสียชีวิตในฐานะผู้เสียหายโดยตรง จะไปยื่นคำร้องต่อป.ป.ช.อีกครั้ง และจะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย หากยังไม่ได้รับการตอบสนองโดยสุจริต ย้ำอีกครั้งว่าไม่ต้องการเป็นคู่กรณีกับป.ป.ช. และไม่มีแผนจะใช้เรื่องนี้เผชิญหน้ากับคสช. แต่เราจะไม่ยอมหลีกทางให้กับความอยุติธรรมแบบนี้” นายณัฐวุฒิ กล่าว
