เมื่อวันที่ 29 พย. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ ตั้งข้อสังเกตว่า นายมุสตาร์ซีดีน วาบา หรือแบมุส แกนนำกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน อาจจะหนีไปที่อื่นโดยอ้างว่าถูกคุมตัวหรืออาจไปเที่ยวกับผู้หญิงเหมือนกรณีของคนอื่นว่า จะเห็นได้ว่าระยะหลังๆผู้นำในรัฐบาล ไม่ค่อยระมัดระวังเรื่องการแสดงท่าทีในการออกความเห็น ซึ่งจะเป็นในลักษณะแข็งกร้าว ทางโฆษกรัฐบาลก็ออกความเห็นในทางที่ไม่ค่อยระมัดระวัง ซึ่งจริงๆช่วงที่แกนนำคนนี้หายไป ก็อาจจะเป็นไปได้หลายสาเหตุ ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องแสวงหาข้อเท็จจริง แต่ไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผลอย่างที่ พล.ท.สรรเสริญ กล่าวมาก็ได้

“เรื่องนี้เป็นการแสดงถึงการใช้อำนาจที่ไม่ระวัง ผ่านทางการพูด คนที่อยู่ในอำนาจนานๆ มักจะเหลิงอำนาจ ไม่ค่อยมองเห็นคนอื่นอยู่ในสายตา และไม่ให้เกียรติ เพราะมั่นใจในอำนาจตัวเอง ถือเป็นเรื่องที่อันตราย ยิ่งคนที่อยู่ในอำนาจที่ไม่ค่อยมีการตรวจสอบก็มักจะเป็นเช่นนี้”นายนิพิฎฐ์ กล่าว

นายนิพิฎฐ์ กล่าวอีกว่า เรื่องการพูดถ้าไม่ระมัดระวังจะต้องกระทบต่อจิตใจของคนใต้อย่างแน่นอน พอไม่ให้เกียรติกัน ก็ทำให้ความรู้สึกร่วมระหว่างรัฐบาลกับประชาชนดูจะห่างเหินกัน คราวนี้คนที่เคยเชียร์รัฐบาลทหารก็จะนั่งไม่ติดแล้ว เพราะระยะหลังรัฐบาลเหมือนนักมวยที่โดนหมัดสวนไปเยอะ ซึ่งลักษณะที่เกิดขึ้นเหมือนกับคนที่อยู่ในอำนาจช่วงท้ายๆ ประวัติศาสตร์เคยมีให้เห็นแล้วว่า คนที่อยู่ในอำนาจนานก็จะจบแบบนี้ และถ้าเป็นแบบนี้อีกหลายๆครั้งก็อาจเกิดเหตุความไม่พอใจของประชาชนมากขึ้นก็ได้ แต่เราไม่อยากคิดไปถึงจุดนั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน