เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาลภาย หลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่งฯ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ ว่า ในหลวงทรงมีพระราชดำรัส ที่เป็นมงคลอย่างยิ่งแก่คณะรัฐมนตรี ที่คณะรัฐมนตรีรับใส่เกล้าใส่กระหม่อมในการปฎิบัติหน้าที่ ทรงมีรับสั่งโดยห่วงใยความทุกข์สุขของประชาชน เรื่องความปลอดภัยและเรื่องวัฒนธรรม

ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงกระแสว่าตนมาจากพรรคการเมืองนั้น ขอเรียนว่าคงต้องดูจากคำตอบที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ไว้ และตนเองไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองมาตั้งแต่ ปลายปี 2551 แล้ว และมีความตั้งใจทำงานในครั้งนี้เนื่องจากทำงานด้านการท่องเที่ยวและกีฬามาอย่างต่อเนื่อง คงได้นำประสบการณ์ที่มีมาใช้ประโยชน์ประกอบการทำงาน เพื่อนำมาพัฒนาในระบบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโครงสร้างเชิงระบบของกระทรวง ให้สอดคล้องกับระบบดิจิทัลที่กำลังเข้ามามีส่วนอย่างมาก รวมทั้งจะพัฒนาระบบการท่องเที่ยว ที่เคยถูกมองว่าเป็นอุตสาหกรรมทำเงิน มาช่วย เป็นเครื่องมือในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม

ทั้งนี้ระยะเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาล ที่มาเพื่อการปฏิรูปก่อนนำไปสู่การเลือกตั้ง ดังนั้นงานในหนึ่งปีข้างหน้านี้ จะไม่ใช่งานเพื่อเพียงแค่สร้างความนิยม แต่เป็นเรื่องการสร้างรากฐาน เพื่อทำให้ใครก็ตามที่จะเข้ามารับตำแหน่งต่อในอนาคต ได้เห็นว่ามีการปรับพื้นฐาน และข้อกฎหมาย เพื่อความคล่องตัวมากขึ้น

ส่วนระยะเวลาที่มีเหลืออยู่หนึ่งปีนี้เชื่อว่าจะสามารถทำงานได้มากพอควร แตกต่างไปจากรัฐบาลปกติซึ่งอาจจะมีข้อจำกัดเรื่องเวลา ทั้งนี้ ตนจะมุ่งเน้นการสร้างการท่องเที่ยวอย่างยังยืน ยึดหลักนิยามตามสากล หรือ จีเอสทีซี ซึ่งมีอยู่ 51 ตัวชี้วัดที่ใช้ในสากล เราก็จะนำมาใช้ อย่างไรก็ตามจะเน้นเรื่องการอำนวยความสะดวกให้แก่ คนทุกเพศทุกวัย ผู้สูงอายุและคนพิการ เพื่อให้เข้าถึงการท่องเที่ยวได้

ด้านนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่ง ให้รัฐมนตรีทุกคน ตั้งใจปฎิบัติหน้าที่ คำนึงถึงความมั่นคงของประเทศชาติ และประโยชน์สุขของประชาชน

 

ขณะที่นายสมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรม กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีกระแสพระราชดำรัสต่อคณะรัฐมนตรีใหม่ว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาซึ่งพระองค์ท่านมีความเป็นห่วงประชาชนขอให้คณะรัฐมนตรีใหม่ทุกคนทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ความสุขของประชาชนเป็นสิ่งที่คณะดนตรีทุกคนจะต้องคำนึงถึง ซึ่งคณะรัฐมนตรีทุกคนก็น้อมรับในกระแสรับสั่งของพระองค์ท่าน ซึ่งการทำงานก็จะเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปโดยจะมีการประชุมทันทีอันที่จริงก็ทำงานกันมาบ้างแล้วเป็นการภายใน ซึ่งตรงนี้ก็จะเริ่มอย่างเป็นทางการ

รมช.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ส่วนการทำงานของตนนั้นคงจะมาดูแลในเรื่องของเอสเอ็มอีเป็นหลัก รวมทั้งเรื่องของโรงงาน แบะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ 4.0 รวมทั้งเมืองแร่ แต่ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือกรัฐมนตรีว่าการในทุกๆเรื่อง ทั้วนี้ไม่มีความหนักใจในเรื่องใดเพราะที่ผ่านมาการดำเนินการเป็นได้ด้วยดีและมีความเข้าใจ ก็จะเป็นการเข้าไปเร่งในงานบางเรื่องตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการที่วางไว้แล้ว ในส่วนของปัญหาเมืองแร่ทองคำที่ยังมีปัญหาในส่วนของผู้ประกอบการนั้นขณะนี้ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการ ซึ่งมีคณะทำงานที่ปลัดกระทรวงเป็นประธานอยู่แล้วก็คงให้ดำเนินการไปตามกระบวนการและขั้นตอนที่วางไว้ทั้งในส่วนของการเจรจาและการเข้าสู่การพิจารณาของอนุญาโตตุลาการซึ่งความพร้อมของเราก็มีอยู่ในระดับหนึ่งแล้ว การเจรจาก็ยึดหลักการที่นายกรัฐมนตรีได้เคยมอบหมายนโยบายไว้ใน 3 หลักคือดูตามเงื่อนไขข้อตกลงที่มีไว้กับต่างประเทศ ดูในเรื่องความปลอดภัยสวัสดิการของประชาชนและดูเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติ

ด้านนายอุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษ์ภายหลังการเข้าเฝ้าฯ ถวายปฎิญาณตนก่อนเข้าปฎิบัติหน้าที่ อย่างเป็นการทางว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีรับสั่งเน้นย้ำ ให้ครม. ดูแลเรื่องความมั่นคง ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของการเมือง แต่หมายถึงความมั่นคงในทุกด้าน อาทิ เรื่องของอาหารการกินของประชาชน ความเป็นอยู่ และความปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนมีความผาสุข ทั้งนี้พระองค์ทรงพระราชทานคำแนะนำว่า ต้องใช้ปัญญาในการแก้ไขปัญหา

นายอุดม ยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ รมช.ศึกษาธิการว่า เรื่องการศึกษาเป็นสิ่งที่ทุกคน ตั้งความหวังไว้สูงและถือเป็นอนาคตของประเทศ ถ้าเราปฎิรูปการศึกษาไม่สำเร็จ ก็จะทำให้ประเทศของเราตามประเทศอื่นยากมาก ดังนั้นเรี่องการศึกษา ระดับพื้นฐาน และระดับอุดมศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ ตนยืนยันว่าจะทำหน้าที่ดังกล่าวให้ดีที่สุด แม้จะมีเวลาอันสั้น แต่ก็ยังสามารถมีจุดเริ่มต้นเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งตรงนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ ครู อาจารย์ ในสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่ต้องมาร่วมมองเป้าหมายเดียวกัน

ด้านพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการรับหน้าที่ รมว.ยุติธรรม ว่า ตนกำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงานของกระทรวงยุติธรรมมาศึกษา เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมประชุม ครม. ในวันที่ 4 ธ.ค.นี้ เพื่อรับทราบแนวทางการทำงานจากนายกรัฐนตรี จากนั้นก็จะประชุม คณะผู้บริหารของกระทรวงฯ ในวันเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ทราบรายละเอียดงานได้มากขึ้น รวมถึงแนวทางแก้ปัญหาในเรื่องสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวง ขณะที่งานของตนในช่วงที่ผ่านมาในฐานะที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีเข้าไปกำกับดูแลนั้น ก็ทำเสร็จไปหลายเรื่องแล้วและได้ส่งรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ซึ่งจะทำให้นายกรัฐมนตรีนำไปพิจารณาในการแบ่งงานรอบใหม่ ให้กับรองนายกรัฐมนตรี ทั้ง 5 คน ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน