อุปทูต สหรัฐฯ ไมเคิล ฮีธ แถลงข่าวหลังการรับมอบ ไฟเซอร์ ชี้ รัฐต้องจัดการ และรับผิดชอบ วัคซีน ที่ได้มา คนไทยต้องตรวจสอบ ตอบปมรัฐบาลไทยคุมเสรีภาพสื่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเช้าวันนี้ (30 ก.ค.64) วัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1.5 ล้านโดสที่ สหรัฐอเมริกาบริจาคให้ไทย มาถึงและถูกส่งเข้าคลังจัดเก็บวัคซีนแล้ว โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นคนไปรับวัคซีนเอง

จากนั้นได้เคลื่อนย้ายวัคซีนไปเก็บในคลังที่อุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส เพราะวัคซีนไฟเซอร์ต้องผสมร่วมกับน้ำเกลือ เนื่องจากเป็นวัคซีนชนิดเข้มข้น 1 ขวด ฉีดได้ 6 คน และเมื่อกระจายไปจุดฉีดจะเก็บในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ซึ่งจะทำให้วัคซีนมีอายุสั้นลง จึงต้องเร่งฉีดภายใน 4 สัปดาห์

ทั้งนี้ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ระบุว่า สหรัฐจะส่งวัคซีนมาให้ไทยอีก 1 ล้านโดส และย้ำว่าสหรัฐจะยังคงอยู่เคียงข้างประเทศไทยต่อสู้กับโควิด-19

ภายหลังการรับมอบวัคซีน อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ไมเคิล ฮีธ แถลงพร้อมตอบคำถามถึงประเด็นความห่วงใยในการนำวัคซีนที่สหรัฐมอบให้ไปใช้ผิดเจตนารมณ์ โดยเชื่อว่านี่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลไทย เราไม่มีบทบาทอะไรในการไปควบคุมหลังการส่งมอบ พร้อมบอกว่าคนไทยต้องตรวจสอบต่อไปกันเอง

อุปทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ยังกล่าวต่ออีกว่า ส่วนวัคซีนอีก 1 ล้านโดสที่ทางการสหรัฐจะบริจาคให้กับไทยนั้น ยังไม่ระบุยี่ห้อ ไมรู้ว่าถึงเร็วสุดเมื่อไหร่ แต่ยืนยันว่าเป็นวัคซีนที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาผลักดันอย่างหนักเพื่อให้ได้จำนวนวัคซีนที่จะบริจาคเพิ่มให้กับทางการไทย เพราะสถานการณ์ในไทยอยู่ในภาวะวิกฤตอย่างมาก ในแง่ของการระบาด

ทั้งนี้ ในอนาคต วัคซีนจากสหรัฐฯ จะมีการผลิตในประเทศอื่นๆอีกด้วย โดยขณะนี้ประชากรประมาณ 50% ของสหรัฐได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ยังต้องโน้มน้าวคนที่เหลือเพิ่ม เช่น ทางประธานาธิบดี โจ ไบเดน เรียกร้องให้บางรัฐในประเทศเพิ่มแรงจูงใจ โดยมอบเงินจำนวน 100 เหรียญให้แก่คนที่มาฉีดวัคซีนใหม่ เป็นต้น

สำหรับกรณีประเทศไทยโดยรัฐบาลออกคำสั่ง และใช้อำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะดำเนินคดีกับสื่อมวลชน คนดัง หรือแม้กระทั่งบุคคลทั่วไปอย่างเข้มข้นและเด็ดขาด หากเผยแพร่ในสิ่งที่รัฐบาลเข้าใจว่าเป็นข่าวปลอม หรือทำให้ประชาชนตื่นตระหนก อุปทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ตอบคำถามต่อกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า “สหรัฐฯสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงออก รวมถึงการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล (ของสหรัฐฯ) แม้บางครั้งอาจจะไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง แต่เราสนับสนุนเสรีภาพการแสดงออกอยู่เสมอ”

 

 

 

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน