‘เพื่อไทย’ แนะทางรอดเดียวของประชาชน ‘ประยุทธ์’ ต้องทำตามที่ ‘โทนี่’ แนะนำ ก่อนจะสายเกินไป จี้ลงพื้นที่ จะได้รู้ว่าอะไรต้องทำ
วันที่ 30 ก.ค.64 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลต้องเห็นชีวิตประชาชนเป็นคน อย่าปล่อยประชาชนนอนตายข้างถนนแบบที่เป็นอยู่ เราเห็นคนตัดสินใจฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจผลพวงจากโควิด เราเห็นคนนอนป่วยในบ้าน ขาดเตียง พ่อตาย แม่ตาย ลูกตาย ตายยกบ้าน
แต่เราไม่เคยเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลงมาดูในพื้นที่จริงเพื่อแก้ปัญหา เรายังเห็นคนในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ออกมาปกป้องด้วยวิธีการบอกว่าที่มีคนล้มตายข้างถนนเป็นกระบวนการจัดฉาก ถ้าคิดว่าจะลบภาพที่คนนอนตายในบ้านและกลางถนนเพื่อปกป้องคนๆ เดียว มันไร้ความเป็นคนสิ้นดี พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำประเทศประเภทไหน
ขณะที่ประชาชนเจ็บป่วยล้มตาย ท่านเวิร์กฟรอมโฮม ยามประชาชนลำบากท่านต้องลงมาดูสถานที่จริง อย่าเลือกไปเฉพาะตอนรับวัคซีนให้นักข่าวถ่ายรูป หรือ ไปเปิดตัวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เปิดโครงการใหญ่โตไม่ทันข้ามเดือน วันนี้ภูเก็ตยกระดับคุมโควิด ห้ามเดินทางเข้าทุกช่องทาง สมุยพลัสโมเดลพบผู้ป่วยโควิด 61 คน ต้องสั่งชะลอโครงการ ล่มไม่เป็นท่า มีใครออกมารับผิดชอบแล้วหรือยัง อีกไม่กี่วันจะครบกำหนดที่พล.อ.ประยุทธ์จะเปิดประเทศ เปิดไม่ได้เป็นเฟกนิวส์หรือไม่
น.ส.ตรีชฎา กล่าวต่อว่า ทางรอดทางเดียวของประชาชนเวลานี้คือทำตามพี่โทนี่ วู้ดซัม หรือ ทักษิณ ชินวัตร บอก นายกฯ ต้องใส่ชุดพีพีอีแล้วบุกไป รพ.สนาม จะได้รู้ว่าอะไรต้องทำ ใช้งบประมาณและกำลังพลให้ถูกต้อง อย่าปล่อยให้ภาระหนักตกอยู่ที่หมอพยาบาลด่านหน้าเท่านั้น เวลานี้ต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือต้องฉีดวัคซีนให้เร็ว เอาเข้ามาให้มากและกระจายจุดฉีด
แต่ท่านไปแก้ปลายทาง คือใครป่วยให้กลับไปรักษาที่ภูมิลำเนา แทนที่จะกักกันเชื้อ กลับไปกระจายเชื้อ เพราะท่านไม่มีแผนแก้ปัญหาที่ใจกลางเมืองหลวงไม่ได้ แทนที่จะหนักเฉพาะกรุงเทพฯ ก็กระจายความเสี่ยงทั่วประเทศ หลายจังหวัดจำนวนผู้ป่วยทะลุสูง แถมรัฐมนตรีรัฐบาลท่านกลับตั้ง รพ.สนาม-ศูนย์พักคอยในวัด และพร้อมเผาศพโควิดฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สรุปวัคซีนไม่พร้อม แต่วัดพร้อม นี่หรือคือแนวคิดของรัฐบาลนี้ ทำตามพี่โทนี่เถอะก่อนทุกอย่างจะสายไปกว่านี้ ท่านและรัฐมนตรีในรัฐบาลท่านอาจจะทนได้ กอดตำแหน่งเพื่อยืดเวลาในการมีอำนาจต่อ เพราะวันนี้คนที่ตายไม่มีญาติพี่น้องของท่าน ท่านทนได้ทนไป แต่สำหรับความรู้สึกประชาชนยามนี้ ท่านสิ้นสภาพความเป็นผู้นำ
