อาจารย์ มช. วิเคราะห์ปมเหตุ นักศึกษาอาชีวะ ใช้ความรุนแรง สู้เจ้าหน้าที่รัฐ ชี้เป็นลูกหลานของกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดอย่างรุนแรง

วันที่ 16 ส.ค.64 รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงของกลุ่มนักศึกษาอาชีวะ ในการชุมนุมเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลาออก ความว่า อาชีวะไม่ได้หล่นมาจากฟากฟ้า

การชุมนุมที่เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากข้อมูลที่เผยแพร่อย่างกว้างขวางจะพบว่ามีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่เตรียมพร้อมบวกกับเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าการชุมนุมนั้น ๆ จะเป็นไปด้วยความตั้งใจที่จะให้เป็นแบบสันติหรือไม่ก็ตาม ต่อให้พี่เต้นมาอธิบายถึงเป้าหมายว่าต้องการไล่ประยุทธ์ ไม่ใช่เอาชนะตำรวจ แต่สำหรับคนกลุ่มหนึ่งก็ชัดเจนว่า “กูไม่ฟัง”

ทำไมนักเรียนอาชีวะจึงเป็นกลุ่มคนที่นิยมใช้ความรุนแรง ไม่ยอมต่อสู้ในทิศทางที่แกนนำได้วางไว้ พวกเขาถือกำเนิดมาพร้อมกับความรุนแรงกระนั้นหรือ

รู้กันอยู่ว่านักเรียนอาชีวะมักเป็นลูกหลานของชนชั้นกลางระดับล่างลงไป ยามที่เกิดวิกฤตในด้านต่าง ๆ พวกเขาก็มักจะเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหา ในวิกฤตโควิดครั้งนี้ก็เหมือนกัน

เดาได้ว่าพ่อแม่พี่น้องของพวกเขาซึ่งต้องทำมาหากินต้องได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงแน่นอน ลองคิดถึงคนขับรถแท็กซี่ แม่ค้าในตลาดสด คนขายของในห้าง ลูกจ้างร้านค้า คนนวดในร้านสปา ฯลฯ

พวกเขาไม่ใช่ชนชั้นกลางที่มีทุนสะสมรองรับได้เป็นเวลานาน บางครอบครัวอาจพอมีอยู่บ้าง แต่ท่ามกลางวิกฤติที่ลากยาวมาข้ามปี ทุนเหล่านั้นคงร่อยหรอและอาจไม่เหลือให้ประทังชีวิตได้อย่างพึงจะเป็น

ไม่ต้องถามไปถึงการฉีดวัคซีนที่ฉ้อฉลกันให้เห็นอย่างหน้าด้าน ๆ คิดหรือคนในระดับพวกเขาจะสามารถเข้าถึงวัคซีนได้ง่าย ๆ พวกเขาไม่ใช่นางจินตนา นางสาวจินตนา นายจินตนา หรือนางสาว 2 ที่จะกรีดกรายไปฉีดโควิดที่โรงพยาบาลแห่งนั้น ถ้าอยากได้ก็คงต้องไปต่อคิวผู้คนแบบที่เราเห็นที่บางซื่อนั่นแหละ

คนที่มองไม่เห็นความฉ้อฉลแบบนั้นได้ก็คงมีแต่ลูกหลานหรือเครือข่ายของชนชั้นนำเท่านั้น

ท่ามกลางความอยุติธรรมที่เห็นอยู่ต่อหน้า จะให้พวกเขามาชุมนุมแล้วแยกย้ายกันกลับบ้านอีกอาทิตย์มาเจอกันใหม่ เพียงแค่นี้มันไม่เพียงพอหรอก เขาและครอบครัวต้องการข้าวกิน ต้องการฉีดวัคซีน ต้องการทำงาน จะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่ ในเมื่อมันก็ผ่านมาเป็นระยะเวลานานมากแล้วสำหรับคนจน

ผู้อาวุโสที่สนใจด้านสันติวิธีเคยกล่าวไว้ว่า “อาชญากรไม่ได้หล่นมาจากฟากฟ้า” ผมเห็นด้วยเป็นอย่างมาก ในฐานะของคนที่เคยเป็นนักเรียนอาชีวะคนหนึ่งก็อยากกล่าวว่า “อาชีวะก็ไม่ได้หล่นมาจากฟากฟ้า” หากเป็นผลมาจากเนื้อนาดินของสังคมไทยต่างหากที่สร้างพวกเขาให้มาเป็นแบบที่เป็นอยู่

.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน