สภาถกงบต่อวันที่ 2 ก้าวไกล ถามหาบรรทัดฐานแสดงสไลด์ประกอบอภิปราย หลังถูกเบลอภาพ บิ๊กป้อม ด้าน พิธา เสนอตัดงบช่วยพัฒนาเมียนมา

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 ส.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 วาระที่ 2 ต่อเป็นวันที่สอง

ก่อนเข้าสู่วาระประชุม นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ และนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้หารือกรณีส.ส.พรรคก้าวไกล นำภาพสไลด์มาประกอบการอภิปราย แต่ถูกเจ้าหน้าที่เบลอภาพ เช่น ภาพของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แต่บางพรรคเอารูปพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม มาประกอบได้ อยากทราบว่า มีการพิจารณาเป็นบรรทัดฐานเดียวกันหรือไม่ เพราะนายศุภชัย มีหน้าที่รับผิดชอบกลั่นกรองสไลด์ และภาพ ที่นำมาอภิปราย

โดยนายศุภชัย ชี้แจงยืนยันใช้บรรทัดฐานเดียวกันกับส.ส.ทุกคน ไม่เคยมีคำสั่งให้เบลอภาพพล.อ.ประวิตร หรือใครคนอื่น เว้นแต่เป็นเรื่องที่สะท้อนความรุนแรง และความเสียหาย เจ้าหน้าที่จะเสนอเรื่องขึ้นมาให้ตนพิจารณา การตัดสินใจของตนว่าสไลด์หรือภาพใดจะผ่านหรือไม่นั้น ไม่ได้วินิจฉัยคนเดียว แต่ผ่านการกลั่นกรองของสำนักกฎหมาย และสำนักประชุมอย่างรอบคอบ เรื่องนี้ตนระวังอยู่แล้วซึ่งให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

จากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณามาตรา 9 งบประมาณกระทรวงการคลังและหน่วยงานในกำกั วงเงิน 10,948,797,100 บาท

โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ขอลดงบกระทรวงการคลังเหลือ 10,945,262,429 บาท ในส่วนของสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน เกี่ยวกับโครงการพัฒนาเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ที่มีปัญหาเรื่องผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ สูญหาย จากเหตุการณ์รัฐประหารในประเทศ

สิ่งที่รัฐบาลไทยควรทำตอนนี้คือ สร้างช่องทางการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม โดยไม่ผ่านกองทัพ แต่การที่กระทรวงการคลังเสนอโครงการพัฒนาเมืองเมียวดี เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลทหารเมียนมา จึงจำเป็นต้องตัดลดงบส่วนนี้ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ 1.มิติเศรษฐกิจที่ชายแดนแม่สอด-เมียวดี ยังมีสถานการณ์สู้รบบริเวณชายแดน และจีดีพีเมียนมาปีนี้ติดลบ 18% การไปช่วยเหลือรัฐบาลเมียนมา จึงไม่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง

2.มิติหลักสากล ทั้งสหประชาชาติและธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย ไม่มีหน่วยงานใดอนุญาตใดให้มีการเบิกจ่าย และชะลอโครงการช่วยเหลือพัฒนาเมียนมา หลังเหตุการณ์รัฐประหาร แต่กระทรวงการคลังยังสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารเมียนมา เป็นการส่งสัญญาณว่าเราให้คุณค่ากับการปกครองแบบใด จึงต้องขอปรับลดงบกระทรวงคลัง

ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา 9 งบประมาณกระทรวงการคลัง ตามที่กมธ.แก้ไข ด้วยคะแนนเห็นด้วย 252 เสียง ไม่เห็นด้วย 79 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง และไม่ลงคะแนน 2 เสียง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน