‘พิธา’ เศร้ายอดเสียชีวิตจากโควิด ทะลุหมื่นอย่างเป็นทางการ ชี้ไทยจะไม่มาถึงตรงนี้ ถ้า ‘ประยุทธ์’ มีความสามารถ ฟาดการเมืองบิดเบี้ยว ทุกอย่างล้มเหลว

วันที่ 25 ส.ค.64 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Pita Limjaroenrat – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ความว่า ผู้เสียชีวิตสะสมทะลุ 1 หมื่น เราคงไม่มาถึงจุดนี้ ถ้าเรามีรัฐบาลที่ดีกว่านี้มาบริหาร

ในวันนี้ เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ประเทศไทยจะมียอดผู้เสียชีวิตสะสมทะลุ 1 หมื่นรายจากโควิด-19 อย่างเป็นทางการ ก่อนอื่นผมขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกครอบครัว ที่ได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ และขอเป็นกำลังใจให้แก่บุคลากรด่านหน้าทุกท่าน ที่กำลังทำงานอย่างสุดความสามารถ เพื่อพยายามรักษาชีวิตของพวกเราทุกคนไว้

แต่เบื้องหลังการทำงานหนักของบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้า ต้องแลกมากับสภาวะทางจิตใจ หลายครั้งที่บุคลากรทางการแพทย์จะต้องปฏิเสธและเลือกช่วยชีวิตคนไข้ หรือต้องเลือกรักษาแบบประคับประคองชีวิตไปแบบตามมีตามเกิด เนื่องจากศักยภาพของระบบสาธารณสุขในการรองรับผู้ป่วยวิกฤติใกล้เกินขีดจำกัด รวมถึงความกังวลใจจากการติดเชื้อเนื่องความไม่มั่นใจในวัคซีนที่ได้รับมาแต่แรก

ในขณะเดียวกัน ยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ส่งผลให้สถานการณ์ของบุคลากรด่านสุดท้าย อย่างสัปเหร่อ อยู่ในภาวะวิกฤติเช่นเดียวกัน เนื่องจากต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ รับฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดตลอดทั้งวัน บางวัดเผาร่างผู้เสียชีวิตจนสภาพเตาเผาศพเสียหาย ส่งผลให้เกิดความล่าช้าและยากลำบากในการทำงานมากขึ้นอีก

ท่ามกลางวิกฤติและภาระงานที่หนักหนาสาหัส ผมเชื่อว่าบุคลากรทุกท่าน ไม่ว่าจะด่านหน้าหรือด่านสุดท้าย ต่างก็ยินดีและกำลังทำหน้าที่ของตนเองอย่างสุดความสามารถ เพื่อรักษาและปกป้องชีวิตของพวกเราทุกคน แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดในเวลานี้ คือ มาตราการจากภาครัฐ โดยเฉพาะการช่วยเหลือและสนับสนุนภาระงานของเจ้าหน้าที่ด้านหน้าและด่านสุดท้าย

ถ้ารัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญเหล่านี้ ก็คงจะไม่มีภาพผู้ติดเชื้อจำนวนมากนอนรอความช่วยเหลือเต็มบริเวณโรงพยาบาล เพราะจำนวนเตียงที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้อีก ภาพของครอบครัวผู้เสียชีวิตที่กำลังใจสลาย เพราะไม่มีโอกาสร่ำลาบุคคลอันเป็นที่รักเป็นครั้งสุดท้าย ภาพของบุคลากรทางการแพทย์ที่ทุกข์ใจอย่างหนัก เพราะต้องเลือกว่าจะรักษาผู้ป่วยรายไหน หรือภาพของสัปเหร่อที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาตลอดทั้งวัน เพราะศพของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ไม่สามารถเก็บหรือประกอบพิธีทางศาสนาได้เหมือนช่วงเวลาปกติ

การสูญเสียชีวิตของผู้ป่วยที่ไม่เคยเกิดขึ้น สภาวะทางจิตใจและร่างกายของบุคลากรด่านหน้าที่ทรุดโทรมอย่างมากจากการทำงานอย่างหนัก รวมถึงภาระงานของสัปเหร่อที่หนักขึ้นทุกวัน ทุกฝ่ายต้องรับภาระหนักตั้งแต่ด่านหน้าไปจนด่านสุดท้าย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลมาจากความไร้ประสิทธิภาพและการเพิกเฉยในการจัดวิกฤติของรัฐบาลภายใต้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

ผมขอย้ำอีกครั้งว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำลังวิกฤติอยู่ในขณะนี้ ไม่ได้เกิดจากปัญหาด้านงบประมาณ แต่เป็นปัญหาด้านความสามารถของผู้นำและคณะ ซึ่งเกิดจากระบบการเมืองที่ไม่เป็นธรรม ไม่ตอบโจทย์ประชาชน และไม่เป็นประชาธิปไตย

ผลลัพธ์ของระบบการเมืองที่บิดเบี้ยว เมื่อต้องเจอกับวิกฤตขนาดใหญ่เช่นนี้ ทำให้ความล้มเหลวทุกอย่างถูกแสดงออกมาอย่างชัดเจน ผมเชื่อว่าทุกท่านก็คงคิดเช่นเดียวกันกับผมว่า เราคงกลับสู่ภาวะปกติได้เร็วกว่านี้ เด็กได้เรียนหนังสือ ผู้ใหญ่ได้ทำงาน เศรษฐกิจได้เดินหน้า ได้พบปะเพื่อนฝูงครอบครัว ได้ใช้ชีวิตที่ไม่ใช่เอาชีวิตรอดไปวันๆ ได้เดินทาง ได้ท่องเที่ยว ได้มีโอกาสอยู่กับคนที่รักนานกว่านี้ เพราะจะไม่มีคนเสียชีวิตถึงขนาดนี้ ถ้าเรามีรัฐบาลที่ดีกว่ารัฐบาลนี้มาบริหารครับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน