‘ชินวัตร’ บุกมอบไฟฉาย-ยาฆ่าปลวก ให้ ‘ศรีสุวรรณ’ หลังแจ้งความ อมรัตน์ ร่วมคาร์ม็อบ ถาม 7 ปี แล้ว ยังมองไม่เห็น ตาไม่สว่างอีกหรือ หรือลุงหิวแสง

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 2 ก.ย.64 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กับพวกเข้าร่วมชุมนุม คาร์ม็อบ เมื่อวันที่ 29 ส.ค.64 ที่หน้าสถานีดาวเทียมไทยคม ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี ก่อนเข้าร่วมขบวนของ นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ไปยังจังหวัดปทุมธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ นายศรีสุวรรณ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี เดินเข้ามาพูดกับนายศรีสุวรรณ ว่าจะมาแจ้งความทำไม เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง เขามีหน้าที่จะต้องออกหมายเรียกพวกตนหรือแกนนำคนอื่นๆอยู่แล้ว ประเทศไทยตกอยู่แบบนี้มา 7 ปี แล้ว ยังมองไม่เห็น ตาไม่สว่างอีกหรือ หรือถ้าลุงหิวแสง วันนี้ผมนำไฟฉายกับยาฆ่าปลวกมามอบให้นายศรีสุวรรณ ก่อนจะเดินทางกลับไป

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับ นางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล หลังเดินทางมาเข้ารวมชุมนุมในกิจกรรมคาร์ม็อบ หน้าสถานีดาวเทียมไทยคมเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา และมีการยืนถ่ายรูปกับกลุ่มเยาวชนที่มาร่วมชุมนุม

ซึ่งการร่วมชุมนุมดังกล่าวแม้มิได้มีแกนนำแต่ในทางกฎหมายถือได้ว่าเป็นการร่วม ซึ่งมีความผิดหลายข้อหา เพระก่อให้เกิดผลกระทบกับการจราจร ความมั่นคง การแพร่กระจ่ายของโควิด-19 และขัดต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ร่วมทั้งปรากฎโดยชัดแจ้งว่ามีการนำเด็กหรือเยาวชนมาร่วมในม็อบดังกล่าว อันเป็นการฝ่าฝืนพรบ.คุ้มครองเด็ก 2546

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ได้รวบร่วมเอกสารหลักฐานภาพถ่ายทั้งหมดมาแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว ในความผิดการฝ่าฝืนมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง ความผิดฐานฝ่าฝืนหรือฝ่าฝืนหรือกระทำการใดๆซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ที่เป็นเหตุให้เกิดโรคร้ายแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามพรบ.โรคติดต่อ และความผิดฐานกีดขวางการจราจร ตามพรบ.ทางบก ความผิดตามม.83 ในฐานะเป็นตัวการที่ร่วมกระทำความผิดกับบุคคลอื่นๆที่มาร่วม คาร์ม็อบ

ซึ่งการเข้าแจ้งความในครั้งนี้ทางสมาคมต้องการให้ส.ส.กระทำผิดต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ถึงตอนนี้ยังอยู่ในสมัยประชุมสภาทำให้ได้สิทธิ์คุ้มครองอยู่แต่เมื่อปิดสภาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย ตนมองว่าส.ส.เป็นผู้แทนประชาชนย่อมต้องรู้ดีว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดแต่ก็ยังฝ่าฝืน ตนจึงต้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อไม่ให้เป็นเยื่ยงอย่างกับคนอื่นต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน