‘ประยุทธ์’ ลั่น 3 ป.ไม่มีแตกแยก รักกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน ยุเสี้ยมตีกันให้ตายไม่มีใครทำลายได้ พูดถึง ‘ธรรมนัส’ ผู้ใหญ่ไม่มีปัญหากับเด็ก

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 ก.ย.64 ที่อาคารรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยเตรียมเอกสารกระดาษเอ 4 เขียนด้วยลายมือ ที่จะให้สัมภาษณ์มาด้วย ทันทีที่เจอกลุ่มสื่อมวลชน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เดี๋ยวจะหาว่าเป็นหวัดอีก จริงๆ ตนมักจะแพ้อากาศตอนเช้าตั้งแต่เด็กแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ประกาศจะล้มนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีราคา อย่าไปฟัง

เมื่อถามกรณีส.ส.ฝ่ายค้านกล่าวหาแจกเงิน 5 ล้านบาทซื้อโหวตส.ส. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นการพูดที่ไม่มีสติสัมปชัญญะพอ พูดโดยไม่มีหลักฐานอะไรทั้งสิ้น ฝ่ายกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการต่อไป ปล่อยไว้ไม่ได้เรื่องแบบนี้ เพราะคนแบบนี้มีพฤติกรรมแบบนี้หลายครั้งแล้ว ช่วงก่อนก็กรีดเลือดในสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขึ้นมาว่า ตอนนั้นเขาจะหาเสียงให้ลูกเขาสมัครนายก อบจ. ขณะที่นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เห็นไหม มีคนช่วยพูดแล้ว ก็ดูพฤติกรรมแล้วกันแต่ละคนที่พูดออกมาว่าเป็นอย่างไร ความน่าเชื่อถือระหว่างเขากับนายกฯ เป็นอย่างไร ไม่ว่าใครก็ตาม ไอ้คนที่ล้มนายกฯ เขาก็ต้องการล้มอยู่แล้ว ก็ต้องมาดูว่าตัวนายกฯ กับเขา ความน่าเชื่อถือมันมีแค่ไหน เรียกว่ามีราคาหรือไม่

เมื่อถามว่ามองการอภิปรายครั้งนี้แตกต่างจากการอภิปรายที่ผ่านมาอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่แตกต่าง ข้อมูลก็เป็นข้อมูลเดิมๆ นำตัวเลขเดิมๆมา และนำตัวเลขย้อนหลังมา ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้มันเปลี่ยนไปเยอะแล้ว ทั้งเรื่องโควิด คนป่วย คนเจ็บ แน่นอนการทำงานก็ต้องมีปัญหาอุปสรรค เราก็พยายามแก้ไป และก็มีพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมและพรรคพลังประชารัฐก็ลงไปช่วยกันดูแลประชาชนในพื้นที่ นั่นแหละคือหน้าที่ส.ส.ของพวกเราในการเข้าไปดูแลและเชื่อมโยงกับกลไกของรัฐ กลไกท้องถิ่น ในการนำผู้เจ็บป่วยมารักษาพยาบาล ทุกคนเขาก็ทำแบบนี้

เมื่อถามว่าแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่กรณีที่จะล้มหรือไม่ล้ม นายกฯ กล่าวว่า มันขึ้นอยู่กับว่าใครทำ เขาทำจริงหรือเปล่า และเขาจะทำต่อหรือไม่ และเขาเชื่อมโยงอยู่กับใคร เมื่อถามว่าแนวทางการโหวตเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนจะรู้หรือไม่ เขาก็โหวตของเขาเอง

เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐอย่างไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า คุยกันตลอด ตนคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทุกวัน เข้าใจหรือไม่

“ในเรื่องเหล่านี้อยากจะกราบเรียนทุกคนและสื่อ ก็เป็นคนตั้งเองใช่หรือไม่ 3 ป. ไม่มีใครมาทำลายผมได้หรอก ทุกคนอาจจะไม่รู้ ทุกคนอาจจะไม่รักเพื่อนรักคนอื่นเหมือนผมรักกัน 3 คน ผมร่วมเป็นร่วมตายกันมา ชายแดนผมก็อยู่ ท่ามกลางสนามรบผมก็เคยอยู่ด้วยกัน และท่านเป็นผู้บังคับบัญชาของผมมาตั้งแต่ก้าวแรกที่ผมมารับราชการ อยู่บ้านเดียวกัน กินนอนด้วยกัน สั่งสอนกัน ฝึกอบรมด้วยกัน โตขึ้นมาก็ยังคบยังเคารพกันอยู่ ทุกอย่างผมเป็นวันนี้ได้เพราะพี่ทั้งสองคนสั่งสอนผมมา และผมจำได้ว่าพี่ทั้งสองคนจะสอนมาให้ผมทุจริตโกง ไม่มี”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่าจะโทร.คุยกับแกนนำหรือส.ส.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ต้องโทร.คุย เดี๋ยวตนอาจจะไปเยี่ยมเขาก็ได้ เพื่อให้เห็นความมั่นใจ เมื่อถามว่าที่ผ่านมาเหมือนนายกฯ เว้นระยะห่างกับส.ส.มากเกินไปหรือไม่ จึงทำให้ไม่เข้าใจกันในบางเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมรับว่า เป็นไปได้ ตนก็ทำงานเยอะ ต้องใช้เวลาทำงาน และมีอะไรต่างๆ ตนก็พูดคุยกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าพรรคก็ไปรวบรวมอะไรต่างๆ จากบรรดาสมาชิก

ซึ่งอาจจะมีปัญหาตรงนั้น และตนยังได้คุยกับบรรดาส.ส.ที่มาพบเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่คณะนี้คณะเดียว มาตั้งหลายสิบคน และที่มาก็เปิดเผย ไม่ใช่ไปแอบในส้วมหรือในห้องน้ำ ไม่ใช่ ตนทำอะไรก็ตามมีบุคคลที่สามอยู่เสมอ เพื่อจะได้เห็นความโปร่งใส ถ้าทำอะไรไม่มีพยาน ลำบาก ฉะนั้นถ้าจะไปพูดจาอะไรมันก็จะเสียหายหมด

เมื่อถามว่าคิดว่ามีขบวนการคนต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้สิ เอาในประเทศก่อน เมื่อถามว่าการกล่าวหาจ่ายเงิน 5 ล้านบาท จะมีการแจ้งความหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้พูดกันไปแล้ว

เมื่อถามว่าหลังจากนี้นายกฯจะใกล้ชิดส.ส.มากขึ้นหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความไม่เข้าใจกันอีก นายกฯ กล่าวว่า คงต้องหาโอกาสให้มากขึ้น เดี๋ยวขอปรับเวลาการทำงานของตนก่อน เมื่อถามว่าในการประชุมพรรคพลังประชารัฐในวันเดียวกันนี้ จะถือโอกาสไปพบหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พบกันเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที “เอาน่า อย่าซักละเอียดมากนักเลย เข้าใจหรือไม่”

นายกฯกล่าวย้ำว่า การที่ส.ส.มาพบเป็นการมาถามสารทุกข์สุกดิบ และทุกคนยืนยันว่าอยู่กับนายกฯ เพราะเขาเป็นคนที่เลือกนายกฯ ในรายชื่อ ก็ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ใครดีก็ดี ใครไม่ดีก็ค่อยว่ากัน อย่าไปหวั่นไหวด้วยคำพูดของคนนั้นคนนี้ มันจะเดือดร้อนวุ่นวาย ตนไม่อยากให้ทุกอย่างวุ่นวายในช่วงการอภิปราย

“ในส่วนของความสัมพันธ์ ผมบอกไปแล้ว ทั้ง 3 คน ไม่ว่าจะตีผมอย่างไร ผมไม่มีแตกกันอยู่แล้ว รักกันเหมือนพี่น้องท้องเดียวกัน จำคำพูดของผมไว้แล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่าแสดงว่ามีคนเสี้ยมให้ 3 ป.แตกกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เฮ้ย มันเสี้ยมมาตั้งนานแล้ว ทุกฝ่ายเสี้ยมหมด”

เมื่อถามว่าเช้านี้ได้ดื่มกาแฟร่วมกับพี่ทั้ง 2 คนแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้ทานเพราะต่างคนต่างกิน บ้านอยู่คนละที่ ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน ทำไมอยากให้ไปอยู่ด้วยกันหรอ เมื่อถามว่าได้พูดคุยกันใน 3 พี่น้องหรือไม่ ว่าทำไมมีคนมาเสี้ยม พล.อ.ประยุทธ์ถอนหายใจ พร้อมกล่าวว่า ตนว่ายังมีอีกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวถามว่ากับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพลังประชารัฐ ยังมีความกังวลใจอะไรกันอีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ผมไม่เคยมีประเด็นอะไรกับเขา เพราะผมเป็นคนให้เขาเข้ามาทำงานเอง แล้วผมจะไปมีอะไรกับเขาล่ะ ผู้ใหญ่จะไปมีปัญหากับเด็กได้อย่างไร ผมไม่ได้พูดเฉพาะถึงแค่รายนี้”

เมื่อถามว่าแต่ถ้าเด็กมีปัญหา ผู้ใหญ่จะแก้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า “เดี๋ยวผมแก้เอง ถ้ามันจริงนะ”

เมื่อถามว่าจะตามหาไอ้ห้อยไอ้โหนหรือไม่ นายกฯกล่าวย้อนถามว่า ใครล่ะ ไม่เห็นมีใครมาโหนตนและตนไม่ชอบคนโหน “ไอ้คนที่ชอบโหน ตั้งแต่เด็กมาแล้วบอกว่าไอ้ที่เข้ามาแล้วบอกว่าได้ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับนาย ไปไกลๆ ไม่โตหรอก”

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องมีแผนสำรองบมืออุบัติเหตุทางการเมืองหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แล้วจะทำอย่างไร ถึงแม้จะมีการล้มนายกฯ ก็ต้องไปดูกฎหมายมาตรา 167 มาตรา 168 แต่จะใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่รู้ ที่มีการวางแผนอย่างโน้นอย่างนี้กันมา แล้วทำได้หรือเปล่า

เมื่อถามว่าหวั่นไหวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่หวั่นไหว ด้วยการทำงานของตน ถึงแม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง อาจจะยังไม่สำเร็จหรือสำเร็จไปบ้างแล้ว แต่หลายอย่างที่สำเร็จก็ไม่เอามาพูดกัน หลายคนได้ประโยชน์พอใจ แต่บางคนยังไม่ได้ก็เลยไปเอาส่วนที่ยังไม่ได้ออกมาพูดกัน มาโจมตี สื่อต้องช่วยขยายความให้นายกฯ บ้าง

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะผ่านการลงมติในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ บอกว่า มันเป็นเรื่องของสภา เป็นเรื่องของส.ส. เป็นเรื่องความเชื่อถือและเชื่อมั่น

เมื่อถามว่ารู้สึกเบื่อการเมืองหรือไม่ที่ต้องเจอสถานการณ์แบบนี้และถือว่าโดนหนัก นายกฯ กล่าวว่า “ถึงจะเบื่ออย่างไรก็ตาม ผมก็ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะผมนึกถึงประชาชนเป็นหลักประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า การปฏิรูปต่างๆ ที่เขาต้องการ ผมก็ทำทุกอย่าง แต่อาจช้าบ้างเร็วบ้างขึ้นอยู่กับขั้นตอนแนวทาง และวิธีการ รวมทั้งข้อกฎหมาย แต่การปฏิรูปทางการเมืองต้องแก้ที่ตัวพวกเรานั่นแหละ

ถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้หาวิธีการที่จะล้มจะเลื่อยขา ถือว่ายังไม่ปฏิรูป หรือแม้แต่การพูดจาในสภาที่เอาข้อมูลไม่ถูกต้องบิดเบือน แล้วเอามาอภิปรายพูดย้อนกลับไปกลับมา เวลาจะตอบคำถามตนยังตอบยากเลย เอาอะไรมาพูดว่ะนี่ เพราะพูดกันไปหลายครั้งแล้ว ถามแบบจะเอาให้ได้ ขอให้ว่ากันตามระเบียบตามกติกาแล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่ายังมั่นใจที่จะเดินหน้าทำงานต่อไปใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องเดินสิ ถ้าตราบใดที่ประชาชนยังต้องการตน ตนก็ต้องเดินต่อ

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากท่าทีการให้สัมภาษณ์ของนายกฯกับร.อ.ธรรมนัส เหมือนจะมีการแก้แค้นทางการเมืองกันหลังจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เขาจะแก้แค้นเรื่องอะไร ส่วนที่มีการให้สัมภาษณ์ด้วยโวหาร และความดุเดือดก็เป็นเรื่องของเขา ผมก็เป็นเรื่องของผม แต่อย่าให้ผมต้องทะเลาะกัน ให้เป็นเรื่องของข้อเท็จจริง”

ผู้สื่อข่าวถามว่าการฯพูดเช่นนี้ต่อไปเด็กควรต้องฟังผู้ใหญ่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “หรือผู้ใหญ่ต้องเชื่อฟังเด็กเหรอ ต้องรับฟังซึ่งกันและกัน แต่ผู้ใหญ่ก็คือผู้ใหญ่ เข้าใจหรือไม่ ผมเป็นใคร ผมเป็นนายกฯ แล้วนายกฯต้องไปฟังใครที่มันไม่ใช่ ถ้าเรื่องจริงผมฟัง แต่ถ้าเรื่องผลประโยชน์หรือเรื่องต่างๆ ผมไม่ฟัง และผมยังไม่เห็นมีใครมาพูดกับผมในเรื่องนี้ แต่ก็มีปล่อยข่าวตรงนั้นตรงนี้มา และตัวเลขที่ออกมานั้นเป็นตัวเลขที่ผมเคยได้ยินแล้วว่าจะมาตี และมาจากอีกฝ่ายด้วย”

เมื่อถามว่าข่าวปล่อยที่เกิดขึ้นจะทำให้เสียสมาธิทำงานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ ถ้าทำให้เสียสมาธิคงเสียมานานแล้ว อยู่มา 6-7 ปีแล้ว

เมื่อถามว่าที่บอกว่าจะไปต่อรวมถึงสมัยหน้าด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มันอยู่ที่สภา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน