เพื่อไทยลั่นเตรียมเชือดส.ส.โหวตสวนมติพรรคกรณีอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชี้โทษหนักถึงขั้นขับออกจากพรรค ลั่นพรรคไม่เคยกลัวใคร อย่าคิดว่าแน่

วันที่ 5 ก.ย. 2564 ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคกล่าวถึงกรณีส.ส.ของพรรคจำนวนหนึ่งโหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาว่า ทางคณะกรรมการจริยธรรมของพรรคจะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของส.ส.เหล่านี้ 3 กรณี คือ1.ที่มีเจตนาฝ่าฝืนมติพรรค โดยขาดประชุมมีเหตุผลหรือไม่

2. การฝ่าฝืนมติพรรค ยังมีการให้ร้ายพรรคด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือไม่และ 3. ฝ่าฝืนมติพรรค และมีติบ่งชี้ว่าอาจจะย้ายไปอยู่พรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ หากพบว่าจงใจทำผิดขั้นร้ายแรง พรรคจะดำเนินการขับออกจากพรรคทันทีตามที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคออกหนังสือแจ้งไปยังส.ส.ทุกคนก่อนหน้านี้

ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรคเผยว่าผลการลงมติที่ผ่านมาแสดงว่า ผู้แทนในสภานั้นไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีน้อยลงทุกวัน แสดงว่าคงจะอยู่ได้ไม่นาน ส่วนที่ส.ส.ของพรรคโหวตสวนมตินั้น ตนในฐานะรองหัวหน้าพรรคภาคอีสานและผู้บริหารยอมรับไม่ได้ เพราะมีการแจ้งเตือนไว้แล้ว ดังนั้นส.ส. 7 คนของพรรคเตรียมตัวได้เลย

“อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง ตัวเองแน่ พรุ่งนี้ทุกอย่างจะเดินตามระเบียบข้อบังคับของพรรคอย่างเข้มงวด ไม่มีประนีประนม จะไปหาพรรคไหนอยู่ก็เรื่องของคุณ ถ้ายังคิดว่าแน่ พรรคไม่กล้าขับ ผมจะเสนอขับคุณเอง ส่วนที่มีส.ส.ไปแถลงข่าวด่าพรรค ก็จะเอาเรื่องด้วย เพราะพรรคก็ไม่เคยกลัวใครเหมือนกัน”

น.ส.อรุณี กล่าวอีกว่า จากนี้ไปรัฐบาลจะต้องออกมาตอบคำถามที่ฝ่ายค้านได้อภิปรายทั้งหมด ทั้งกรณีการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวครวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ หากเชื่อมั่นว่าทำถูกต้อง ควรออกมาแสดงใบเสร็จการจัดซื้อ หรือเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 1 ของรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนว่าเป็นการซื้อขายแบบรัฐบาลต่อรัฐบาลจริงหรือไม่ เหตุใดจึงมีการจ่ายภาษี จนทำให้ประเทศไทยเสียประโยชน์เป็นเงินภาษีหลายร้อยล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการระบายยางพาราในสต๊อกของรัฐบาล ว่ามีการขายต่ำกว่าคุณภาพจากกิโลกรัมละ 37 บาทเหลือ 33 บาท ซึ่งอาจจะซ้ำรอยการระบายข้าวดีเป็นข้าวเสีย ซึ่งเป็นข้าวในสต๊อกสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนทำให้ประเทศเกิดความเสียหายหรือไม่ ทั้งนี้เชื่อว่าแม้ฝ่ายรัฐบาลจะชนะเสียงในสภา แต่ไม่อาจทัดทานความต้องการที่แท้จริงของประชาชนได้ ขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนจากการบริหารของรัฐบาลที่ผิดพลาดล้มเหลวอย่างแสนสาหัสจนหมดทางออก

น.ส.อรุณีกล่าวต่อว่าต้องติดตามว่าประชาชนจะระบายความอัดอั้นที่มีต่อรัฐบาลอย่างไร แม้จะอยู่ในตำแหน่งต่อ แต่ไม่อาจมีที่ยืนในใจของประชาชนต่อไปได้ เพราะแม้แต่เสียงโหวตของพรรคร่วมรัฐบาลเองยังต่ำ ได้คะแนนเกือบลำดับท้ายสุดในบรรดารัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมด สะท้อนถึงความล้มเหลว ความไม่เชื่อมั่นและความสั่นคลอนในตำแหน่งนายกฯ ที่มีแต่คนเกลียด

จากนี้ไปพล.อ.ประยุทธ์จะถูกจับตาการทำงานจากฝ่ายค้าน และแม้กระทั่งคนในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน