พิชัย อัด ประยุทธ์ ทำไทยย้อนยุค 30 ปี ปมแจกกล้วยแลกคะแนนโหวต ทำประเทศเสื่อมทรุด ชี้ยิ่งลากต่อไปยิ่งเสื่อมถอย แนะหาทางลงก่อนจะเละกว่านี้
เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2564 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.)ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า แม้การโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ผ่านพ้นไปแล้ว ซึ่งฝ่ายค้านโดยเฉพาะพท.อภิปรายความล้มเหลวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม และอีก 5 รัฐมนตรี ได้เป็นอย่างดีและชัดเจน โดยเฉพาะการเปิดแผลเรื่องส่วนต่างของราคาวัคซีนซิโนแวค ที่รัฐบาลยังไม่มีหลักฐานการชำระเงินมาโชว์เพื่อแสดงความโปร่งใส จะพูดแก้ตัวมั่วๆ โดยไม่มีหลักฐานไม่ได้
นอกจากนี้ พท.ยังชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวทางเศรษฐกิจในแต่ละด้านที่ประชาชนสัมผัสได้เองและรู้สึกถึงความเจ็บปวดได้ ทั้งภาคธุรกิจ และภาคการเกษตร จนทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้คะแนนไว้วางใจรองบ๊วย แต่ได้คะแนนไม่ไว้วางใจมากที่สุด
แสดงว่ามี ส.ส.ฝั่งรัฐบาลเองที่รับไม่ได้กับความล้มเหลวในการบริหารของพล.อ.ประยุทธ์ จึงทำให้มีผลการลงคะแนนออกมาเช่นนั้น นักการเมืองอาชีพต่างรู้ดีว่า ถ้ายังดันทุรังแบกผู้นำที่ล้มเหลว การจะชนะการเลือกตั้งในครั้งหน้าคงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
นายพิชัย กล่าวว่า ในช่วงอภิปรายก่อนลงคะแนนโหวตไม่กี่วัน มีกระแสการโหวตเพื่อไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ ในฝั่งของรัฐบาลเองอย่างรุนแรง ต่อมาก็มีกระแสข่าวแจกกล้วยเพื่อล้มนายกฯและกระแสแจกกล้วยเกทับของฝั่งนายกฯ เพื่อรักษาสถานะของตนเองไว้ เรื่องดังกล่าวเป็นที่ถกเถียงกันมาก เพราะเป็นการกระทำย้อนยุคไปในอดีตกว่า 30 ปีที่แล้ว ที่มีพรรคเล็กจำนวนมาก และเวลาจะโหวตก็ต้องแจกกล้วยกันแบบนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือไม่ใช่เรื่องแปลก ประธานสภา ก็ทราบดีและเคยมีประสบการณ์พบเห็นในอดีต จึงสั่งสอบสวน ถ้าไม่มีมูลคงไม่ต้องสอบสวนอย่างแน่นอน
“การกระทำดังกล่าวทำให้การเมืองไทยย้อนยุคกลับไปกว่า 30 ปีนี้ สื่อหลักญี่ปุ่น นิเคอิ เอเชียได้เตือนไว้ก่อนแล้วตั้งแต่เลือกตั้งเสร็จและกลายเป็นจริง ซึ่งแสดงถึงความเสื่อมโทรมของการเมืองไทยที่เกิดจากรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว” นายพิชัย กล่าว
รองหัวหน้า พท. กล่าวว่า ในประเด็นความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ ที่พท.อภิปรายในสภา พล.อ.ประยุทธ์กลับตอบไม่ตรงประเด็น ชี้แจงไม่ได้เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริงในทุกภาคส่วน การอ้างถึงบริษัทเครดิตเรตติ้ง Moody’s ยังคงเรตติ้งไทยคงเดิม ก็เพราะไทยยังมีทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศในระดับที่สูงถึง 2.42 แสนล้านเหรียญ ซึ่งเป็นบุญเก่าที่สะสมมาจากหลายรัฐบาลในอดีต ไม่ได้แปลว่าเศรษฐกิจไทยดีแต่อย่างใด
ดังนั้น จากสภาวการณ์ที่เป็นอยู่ ทั้งการเมืองที่ง่อนแง่นในพรรคพลังประชารัฐเอง ที่รอวันแตกหัก การควบคุมการระบาดที่ยังคุมไม่ได้จริง คนเจ็บคนตายยังสูงมาก แม้จะตรวจน้อยลงเพื่อให้ตัวเลขลดลง วัคซีนคุณภาพยังขาดแคลน เศรษฐกิจมีแต่จะทรุดลงเรื่อยๆ อีกทั้งประชาชนที่ไม่พอใจพล.อ.ประยุทธ์ ออกมาชุมนุมประท้วงกันจำนวนมากและออกมาแทบทุกวัน
พล.อ.ประยุทธ์ ควรต้องหาทางลงให้เร็วที่สุด ไม่มีทางเลยที่พล.อ.ประยุทธ์ จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ มีแต่จะแย่ลง ยิ่งลากต่อไปยิ่งเสื่อมถอย ประชาชนจะยิ่งทนกันไม่ไหว สุดท้ายพล.อ.ประยุทธ์ อาจจะไม่มีพื้นที่ยืนในประเทศไทยได้เลย จึงอยากขอเตือนไว้
