คาดสภาโหวตผ่านร่างรธน.วาระ 3 แก้ไขบัตรเลือกตั้งเป็น 2 ใบ ชี้ส.ส.พรรคใหญ่เอาด้วยแก้ไข ด้านเสียงสว.คงเกิน 84 เสียงมาไม่มาก แต่ก็ดีพอดันผ่านสำเร็จ

วันที่ 9 ก.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงการโหวตร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา83และมาตรา91 เรื่องระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ในวาระสาม วันที่ 10 ก.ย.นั้น ค่อนข้างชัดเจนว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาในวาระ3 โดยมีเสียงจากส.ส.และส.ว.ให้ความเห็นชอบ

โดยในส่วนส.ส.ที่มีอยู่ทั้งหมด 480 เสียงนั้น มีเสียงสนับสนุนหลักจากพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ที่เทคะแนนไปทางเดียวกันด้วยการเอาบัตรเลือกตั้ง 2ใบ และเมื่อรวมกับเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนาแล้วจะมีเสียงสนับสนุนอยู่ที่ประมาณ 300 เสียงต้นๆ มากกว่าฝ่ายที่ไม่เอาด้วยกับบัตรเลือกตั้ง 2ใบ ที่ประกอบด้วยพรรคก้าวไกล พรรคภูมิใจไทย และพรรคเล็ก ที่มีเสียงรวมกันประมาณ170 เสียงเท่านั้น

ขณะที่ตอนนี้เสียงส.ว.ที่มีอยู่ 250 เสียง ปรากฏว่ามีเสียงก้ำกึ่งสูสีกัน ระหว่างส.ว.ฝ่ายที่สนับสนุนและไม่สนับสนุนบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ โดยส.ว.ฝ่ายที่ไม่สนับสนุนบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส่วนใหญ่เป็นส.ว.สายจังหวัดและสายอาชีพ และกลุ่มที่ไม่ชื่นชอบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีอยู่ประมาณ 100-130 เสียง กลุ่มเหล่านี้จะลงมติไม่รับร่างและงดออกเสียงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 83และ 91 เนื่องจากเกรงว่า บัตรเลือกตั้ง 2ใบ จะทำให้เกิดเผด็จการเสียงข้างมากในรัฐสภา เกรงว่าจะเปิดช่องให้พรรคเพื่อไทยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมามีอำนาจเลือกตั้งสมัยหน้า

ขณะที่ส.ว.ฝ่ายที่สนับสนุนบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ขณะนี้สามารถรวบรวมเสียงส.ว.สนับสนุนได้เกิน 84 เสียงแล้ว แม้จะมีเสียงน้อยกว่าฝ่ายไม่เห็นด้วยกับบัตร 2 ใบ แต่ถือว่ามีเสียงเกิน 1ใน 3 ของจำนวนส.ว.ทั้งหมด 250 คน

โดยส.ว.กลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นสายทหาร ตำรวจ พลเรือนที่เคยลงมติรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระแรกมาแล้ว โดยได้รับสัญญาณไฟเขียวให้เดินหน้าสนับสนุนการโหวตผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 โดยให้เหตุผลว่า หากคว่ำวาระ 3 จะถูกมองว่าจ้องล้มรัฐธรรมนูญ ทำให้สถานการณ์การเมืองมีความรุนแรงขึ้น

ทั้งนี้แม้จะโหวตผ่านวาระ 3 ไปได้ ก็ต้องมีผู้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวอีกขั้นตอน ดังนั้นเมื่อรวมเสียงส.ส.และส.ว.แล้ว จะได้เสียงสนับสนุนมากกว่ากึ่งหนึ่งหรือเกิน 365 เสียง จากจำนวนสมาชิกรัฐสภาที่มีอยู่ขณะนี้ทั้งหมด 730 คน

โดยมีเสียงเห็นชอบจากส.ว.ร่วมด้วยครบ 1 ใน 3 หรือ 84 เสียง เสียงของส.ว.ก็อาจจะเกิน 84 เสียงมาไม่มาก แต่ก็เพียงพอให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา ในวันที่ 10 ก.ย. โดยต้องจับตาดูต่อว่าหลังจากนี้จะมีสมาชิกรัฐสภาเข้าชื่อกันเกิน 1 ใน10 ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน