‘สุชาติ’ เชื่อไม่มีก๊วนใดตาม “ธรรมนัส” ออกไป ยันศูนย์รวมจิตใจคือ ‘ประวิตร’ ‘ลั่น’ทุกคนมาเพราะ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ไม่ได้มาอยู่พรรคนี้เพราะหัวหน้าชื่อธรรมนัส
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 10 ก.ย.64 ที่บริษัท เอส.บี.อุตสาหกรรมเครื่องเรือน จำกัด จ.นนทบุรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่าอาจมีการปรับโครงสร้างพรรคเพื่อแก้ปัญหาขัดแย้งภายใน ว่า เรื่องการเมืองไม่ว่าการประชุมพรรค หรือตำแหน่งต่างๆ ในพรรค ต้องให้เป็นหน้าที่ผู้ใหญ่ในพรรคตัดสินใจ ตนเป็นเพียงแค่สมาชิก เราในฐานะนักการเมืองก็ทำหน้าที่เพื่อประเทศ จุดยืนอยู่ตรงไหนก็ทำงานตรงนั้นให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
เมื่อถามว่ามองผลต่อเนื่องหลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พ้นจากตำแหน่งรมช.เกษตรฯ จะลาออกจากเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งตำแหน่งอื่นๆ ด้วยหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า เราคิดแทนคนอื่นไม่ได้ ส.ส.ทุกคนมีพื้นที่มาจากเสียงประชาชน ทุกคนรู้ว่าเข้ามาเพื่อทำงาน และทุกคนที่มากับพรรคพลังประชารัฐก็ถือว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
และมีหัวหน้าพรรค ณ วันนี้คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคนอยู่แล้ว ตนคิดว่าทุกคนไม่มีประเด็นปัญหาอะไรเพราะเรามีศูนย์รวมจิตใจอยู่แล้ว คือพล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรค ส่วนการทำงานในภาพรวมของพรรคก็ต้องหารือกัน หัวหน้าพรรคก็คงจะได้พิจารณา
ส่วนที่มองว่าอาจจะต้องปรับโครงสร้างพรรคนั้น นายสุชาติ กล่าวว่า ตนไปพูดเกินเลยตรงนั้นไม่ได้ เพราะเป็นแค่กรรมการบริหาร 1 เสียงเท่านั้น ทั้งหมดอยู่ที่หัวหน้าพรรคและสมาชิก ส.ส. แต่อย่าลืมว่าทุกคนมาด้วยเสียงของประชาชนเลือกตั้งเข้ามา ทุกคนต่างก็รู้ว่ามีหน้าที่ของตัวเอง อย่างวันนี้ก็ต้องทำหน้าที่ในสภา
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นส่วนหนึ่งให้พรรคพลังประชารัฐกลับมาสามัคคีกันหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งที่พรรคมีความเหนียวแน่น เพราะเรามีหัวหน้าพรรคที่ทุกคนให้ความเคารพ ในส่วนของเลขาธิการพรรค ก่อนหน้านี้เรามี นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเลขาธิการพรรค ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
พอเปลี่ยนมาเป็นร.อ.ธรรมนัส ก็เหมือนเดิม เพราะหัวหน้าพรรคคือพล.อ.ประวิตร เราอาจจะไม่เหมือนพรรคอื่น แม้จะตั้งขึ้นมาใหม่ 2-3 ปี แต่ความแข็งแรงความสามัคคี ความเข้มแข็งของส.ส.ทุกคนก็มีมากขึ้น ทุกคนต่างรู้บทบาทหน้าที่ ในพรรคก็มีทั้งส.ส.ใหม่และเก่า ซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไร
“เพราะทุกคนที่มาอยู่กับพรรคนี้เพราะพรรคเสนอชื่อคนเดียว คือพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ผมจึงเชื่อว่าไม่มีอะไร การเมืองก็ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เหมือนเราเปลี่ยนผู้บริหารบริษัท ลักษณะคล้ายกัน ส่วนจะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรคหรือไม่ ยังไม่ทราบและยังไม่ถึงเวลา”นายสุชาติกล่าว
เมื่อถามว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคใช่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค โดยหัวหน้าพรรคต้องใช้องคาพยพทั้งหมด ทั้งพวกตน สมาชิกและกรรมการบริหารพรรค ทุกคนรักกันดีอยู่แล้ว พรรคมีความสามัคคี เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบตามมา ไม่ว่าจะเป็น 2 ช. 3 ช. โดยภาพรวมนักการเมืองทุกคนสนิทสนมกัน แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องแบ่งเป็นกลุ่มเป็นก๊วน เพียงแต่มีความสนิทสนมกันบ้าง อย่างตนอยู่ภาคกลางก็มีเพื่อนอยู่ภาคกลาง แต่ทุกคนฟังหัวหน้าพรรคและนโยบายพรรค ถ้าเราอยู่ในพรรคแล้วไม่เคารพหัวหน้าหรือมติพรรค ก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า จะไปพูดตรงนั้นไม่ได้เพราะตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่อย่างตนมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ เพราะรู้ว่าพรรคเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ตนถึงเข้ามา เพราะเราต้องดูก่อนว่าเราจะมาอยู่พรรคนี้เพราะอะไร เพราะยังไม่รู้เลยว่ามาอยู่พรรคนี้แล้วจะได้เป็นรัฐบาลหรือเปล่า แต่ถ้าได้เป็นรัฐบาลเราก็รู้ว่านายกรัฐมนตรีคือพล.อ.ประยุทธ์ เราถึงมา อย่างเพื่อนของตนที่มาจากหลายจังหวัดและชักชวนกันมาก็เพราะเรื่องนี้
เมื่อถามว่าคิดว่านายกฯ มีระยะห่างกับส.ส.มากไปหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ วันนี้นายกฯทำงานหนักมาก พล.อ.ประวิตรก็ดูแลลูกพรรคเป็นอย่างดี พล.อ.ประยุทธ์มีอะไรก็คุยผ่านหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว เป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งหมด ขนาดเป็นรัฐมนตรีอย่างเดียวงานก็หนักและเหนื่อยมาก มีเวลาน้อยที่จะได้พบกับเพื่อน แต่ทุกคนเข้าใจว่าอยู่บนพื้นฐานการทำงานเพื่อประเทศ
เมื่อถามว่าการที่ร.อ.ธรรมนัส ลาออกไปจะมีกลุ่มก๊วนใดตามออกไปบ้างหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า นักการเมืองไม่มีอย่างนั้นแน่นอน
เมื่อถามย้ำว่าในพรรคจะไม่มีใครตามร.อ.ธรรมนัสไปใช่หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า “วันนี้ท่านยังอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ คิดว่าผู้แทนทุกคนที่มาอยู่กับพรรค มาอยู่เพราะเลือกนายกฯ และหัวหน้าพรรคลุงป้อม ไม่ได้มาเพราะร.อ.ธรรมนัส เป็นหัวหน้าพรรค จึงอย่าไปกังวล เรื่องนี้ ยืนยันว่าไม่มีความกังวล และคิดว่าไม่มีประเด็นในเรื่องนี้ เพียงแต่รอเวลาหน่อย”
