‘ก้าวไกล’ งดออกเสียง โหวตร่างแก้รธน.วาระ 3 ลั่น พร้อมสู้ทุกกติกา เชื่อรอยแตก ‘พลังประชารัฐ’ กระทบเสถียรภาพรัฐบาล ถึงขั้นยุบสภาได้
เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 10 ก.ย.64 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงก่อนการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ว่า จุดยืนพรรคก้าวไกลคือ งดออกเสียง เนื่องจากในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระแรก พรรคก้าวไกลเห็นว่าปัญหาทางการเมืองผูกด้วยรัฐธรรมนูญปี 60 ดังนั้น จึงต้องแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้ง ถึงจะแก้ปัญหาได้ แต่ผลออกมากลับผ่านเพียงร่างเดียวและแก้เพียง 2 มาตราเท่านั้น
นายพิธา กล่าวต่อว่า เมื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับถูกลดทอนเหลือการแก้ไขเพียงระบบเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลเห็นว่าควรจะแก้ไขระบบเลือกตั้งเพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า และถอดบทเรียนระบบการเลือกตั้งที่ทำให้เกิดปัญหา พรรคเห็นด้วยกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เพื่อขจัดการเหมารวม ส่วนวิธีคำนวณ เราสนับสนุนให้คำนวณ ส.ส.แบบโปร่งใสและเป็นธรรม ทำให้การเมืองมีความเข้มแข็ง แต่ผลลัพธ์ไม่ออกมาเป็นไปตามที่ต้องการ
“ยืนยันว่าเราไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญปี 60 ซึ่งเป็นการสืบทอดอำนาจ คสช. แต่เราไม่อาจเห็นชอบกับผลลัพธ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาในวาระ 1 และ 2 ได้ ดังนั้นพวกเราจึงของดออกเสียง ตอนนี้จึงเป็นการชี้ชะตาของผู้ต้องการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าจะมีเสียงสนับสนุนมากน้อยเพียงใด ท้ายที่สุดพรรคก้าวไกลพร้อมที่จะสู้ทุกกติกา ทุกสนาม ทุกเมื่อและพร้อมเป็นตัวแทนประชาชนในการแก้ปัญหา” นายพิธา กล่าว
เมื่อถามว่าหากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านการลงมติวาระ 3 พรรคก้าวไกลจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่มี เพราะพรรคพร้อมสู้ทุกกติกา
เมื่อถามถึงปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ นายพิธา กล่าวว่า ทุกคนคงเห็นตรงกันถึงปัญหาเสถียรภาพภายในพรรคและรัฐบาล ซึ่งผลตามมาของความไร้เสถียรภาพก็คงจะเป็นคุณภาพของการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในปัจจุบัน โดยขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาโควิดมากกว่าภายใน อย่างไรก็ตามเชื่อว่าปัญหาดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดการยุบสภาได้
