อนุทิน ซัดคนด้อยค่าระบบสาธารณสุขไทย โวฉีดวัคซีนวันละ 9 แสนโดส ยัน ฉีดไฟเซอร์ให้นักเรียน ทันเปิดเทอม เร่งศึกษาฉีดซิโนฟาร์มในเด็ก
เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมครม. ถึงความพร้อมมาตรการด้านสาธารณสุข สำหรับการเปิดประเทศตามนโยบายของนายกฯในวันที่ 1 ต.ค.ว่า มีความพร้อมอยู่แล้ว ทุกอย่างที่วางแผนไว้ก็มาตามกำหนด
ก่อนหน้านี้จะมีการด้อยค่า ปรามาส สบประมาทว่าจะทำไม่ได้ทำไม่สำเร็จ เช่น ที่บอกเราฉีดวัคซีนวันละ 3 แสนโดส จะทำไม่สำเร็จ แต่ระบบสาธารณสุขของไทย แสดงให้เห็นว่าเรามีศักยภาพฉีดได้วันละ 9 แสนโดสต่อวัน ทำให้เกิดภูมิต้านทานที่ดีขึ้น ผู้ติดเชื้อก็ไม่มีอาการหนัก ไม่เสียชีวิต เมื่อเราคิดทุกอย่างเป็นบวก ก็จะกล้าตัดสินใจทำประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับส่วนรวม
เมื่อถามว่าวันที่ 1 ต.ค.นี้ เราจะผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องดูสถานการณ์ หากมีช่องทางผ่อนคลายมาตรการและคลายล็อกได้ ก็ไม่เคยช้า และกรมควบคุมโรคมีการประเมินสถานการณ์อยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่าวันที่ 1 ต.ค. จะเปิดประเทศหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้กำหนดวัน ต้องประเมินตามสถานการณ์ของทุกวัน
เมื่อถามถึงการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เด็กนักเรียนก่อนเปิดเทอม นายอนุทิน กล่าวว่า ฉีดแน่นอน โดยวันที่ 29 ก.ย.นี้ วัคซีนไฟเซอร์จะมาเพิ่มและจะทยอยมาจนครบ 30 ล้านโดสในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่ฉีดให้เสร็จเพื่อให้กระทรวงศึกษาธิการเปิดได้ตามกำหนด โดยมีแผนไปฉีดให้เด็กนักเรียนที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ถึงในโรงเรียนแล้ว แต่ผู้ปกครองยินยอมด้วย
ส่วนความคืบหน้าจัดเตรียมวัคซีนซิโนฟาร์ม ให้เด็กอายุ 12 ปี ขณะนี้กำลังตรวจสอบเอกสาร รวมทั้งผลการศึกษาและผลการทดสอบ โดยกรรมการวิชาการ ซึ่งมีขั้นตอนแตกต่างจากวัคซีนไฟเซอร์ ที่กำหนดเรื่องอายุมาแล้ว แต่เรื่องซิโนฟาร์ม องค์องค์การอาหารและยา จะเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อออกมาให้เร็ว
เมื่อถามว่าสิ้นเดือนก.ย.นี้ มีกระแสข่าวศบค.จะลดบทบาท กระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมรับช่วงต่ออย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ศบค.เป็นเรื่องของทำเนียบรัฐบาลโดยรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุขจะคอยสนับสนุนและเป็นฝ่ายปฏิบัติ
