กกต.เตือนผู้สมัคร อบต. หากรู้ไม่มีสิทธิ์ อย่าลงสมัคร โทษหนัก คุกสูงสุด 10 ปี ยิ่งเคยถูกดำเนินคดีเจ้ามือหวยเถื่อน หรือประพฤคิมิชอบ ยิ่งต้องระวัง
เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2564 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. แถลงถึงการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) และสมาชิกสภา อบต.ว่า กกต.ห่วงใยเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัคร อยากให้ตรวจสอบให้พร้อมก่อนลงสมัคร เนื่องจากหากรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติ แต่มาลงสมัคร อาจถูกแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี
เช่น ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิกอบจ.โดยไม่แจ้งเหตุอันควร เคยถูกดำเนินคดีเจ้ามือหวยเถื่อน ค้ายาเสพติด ประพฤติมิชอบ ถูกให้ออกออกพ้นราชการ คดีทุจริต คดีล้มละลาย รวมถึงการมีชื่อในทะเบียนบ้านไม่ถึง 1 ปี หากสมัครแล้ว ตรวจพบภายหลังจะสั่งให้เลือกตั้งใหม่และถูกดำเนินคดี ความผิดจะเริ่มนับตั้งแต่ยื่นใบสมัคร
อีกข้อกังวลหนึ่งคือ การแจกเงินซื้อเสียง คดีพวกนี้อย่าไปทำ การเลือกตั้งควรแข่งขันกันด้วยนโยบาย อย่าไปเอารัดเอาเปรียบกัน ดังนั้น ไม่อยากเห็นความผิดลักษณะนี้เกิดขึ้น ถ้าไม่มี ประเทศจะเจริญและพัฒนากว่านี้ ส่วนพรรคการเมืองสนับสนุนได้ แต่ห้ามลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง
เมื่อถามว่าหากช่วงเลือกตั้ง มีการแพร่ระบาดของโควิดรุนแรงจะมีมาตรการรับมืออย่างไร พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว ถ้าไม่สามารถเปลี่ยนสถานที่เลือกตั้งได้ จะประกาศงดการลงคะแนน แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ในวันเลือกตั้ง เป็นหน้าที่ของกรรมการประจำหน่วย (กปน.) ประกาศงดการลงคะแนน และกำหนดวันลงคะแนนใหม่หลังเหตุการณ์ทุเลาลงแล้ว ถ้าเกินกรอบเวลาจัดการเลือกตั้ง เป็นอำนาจกตต.พิจารณาขยายวันเลือกตั้งออกไป
อย่างไรก็ตาม กกต.ได้เห็นชอบจัดหน่วยเลือกตั้งตามมาตรการโควิด-19 ซึ่งเราดำเนินการอย่างเข้มข้น พร้อมขอคำแนะนำคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดประกอบการพิจาณาจัดการเลือกตั้ง
