จุติ สั่งฟัน นักพัฒนาสังคม ยักยอกเงิน 13 ล้านบาท ยันไม่ใช่เงินช่วยเหลือกลุ่มคนพิการ หลังเกิดเหตุ สั่งให้ออกจากราชการ อายัดบัญชี ประสาน ปปง.สอบเส้นทางการเงิน

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2564 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมด้วยนางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวง พม. แถลงชี้แจงกรณีนายพิศาล สุขใจธรรม นักพัฒนาสังคมชำนาญการ ซี 6 กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ยักยอกเงินนอกงบประมาณเข้าบัญชีตัวเองกว่า 13 ล้านบาทก่อนถูกตำรวจ ตม.เชียงรายจับกุมได้ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ขณะเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศว่า เงินดังกล่าวเป็นเงินนอกงบประมาณ เกี่ยวกับวงเงินประกันสัญญาจัดซื้อจัดจ้างหรือก่อสร้างของ กรม พก. ไม่ใช่เงินงบประมาณช่วยเหลือประชาชน กลุ่มเปราะบางหรือคนพิการ ขอให้ประชาชนทุกคนสบายใจได้ ว่าเงินของผู้พิการและเปราะบาง ยังคงได้รับตามปกติ

นายจุติ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้มีคำสั่งให้นายพิศาล ออกจากราชการแล้ว พร้อมอายัดบัญชีส่วนตัวที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และประสาน ปปง.ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินย้อนหลังไปมากกว่า 3 เดือน เนื่องจากการตรวจสอบเบื้องต้น ทางธนาคารตรวจสอบได้ย้อนหลัง 3 เดือนและพบว่าใน เดือนมิ.ย. มีการโอนเงินของกระทรวงไปยังบัญชีส่วนตัวของนายพิศาล จากนั้นวันที่ 14 ก.ย. จึงมีการแจ้งดำเนินคดีกับนายพิศาล

ขณะเดียวกันได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด และได้บอกกับปลัดพม.แล้วว่า หากผลสอบไปเจอใคร ต้องขอโทษล่วงหน้าว่า ไม่ไว้หน้าหน้าอินทร์หน้าพรหมเหมือนกัน ต้องไม่ให้มีเรื่องเหมือนปี 2561 อีก

นายจุติ กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ จะไม่ไว้หน้าผู้ทุจริต ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง หรือข้าราชการระดับไหน นโยบายรัฐบาลชัดเจนคือปราบทุจริต ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทุจริตเกิดขึ้นอีก ตนได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบระบบการเบิกจ่ายงบประมาณใหม่ หากระบบที่มีอยู่แล้วดี แต่ผิดพลาดที่คน ก็ให้แก้ไขที่คน แต่หากระบบผิดพลาดยังไม่ดีพอ ก็ให้การปรับปรุงระบบการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของทุกกระทรวงใหม่ทั้งหมด

น.ส.สนธยา บุณยภูษิต รองอธิบดี พก. กล่าวว่า ปกติการเบิกจ่ายเงินในบัญชีจะมีผู้รับผิดชอบที่มีรหัสหรือพาสเวิร์ด 3 คน สามารถปลดได้ 2 ใน 3 ในรายนี้เนื่องจากสำนักงานเลขานุการกรมเห็นความเคลื่อนไหวในบัญชีผิดปกติ ซึ่งใกล้ปิดปีงบประมาณแต่มีการถูกโอนเข้าบัญชีตัวเองทั้งที่ไม่มีการตั้งเรื่องวางเบิก จึงได้ตรวจสอบพบการทุจริต ส่วนที่มีรหัสปลดล็อกได้เพียงคนเดียวแล้วยักยอกโอนเงินได้ เข้าใจว่าอาจจะเกิดความไว้วางใจในการทำงานมาก่อนหน้านี้ ซึ่งไม่เคยปัญหา ผู้ที่มีรหัสอีก 2 คนเลยมอบรหัสให้ดำเนินการ แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะสาเหตุให้ทำให้ผู้ต้องหาเกิดความละโมบจนยักยอกเงินไปเข้าบัญชีตนเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน